มาดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในวันนี้ หลังจากที่เมื่อคืนราคาถูกฉุดให้ร่วงลงมาแตะระดับ 1,863 ดอลลาร์ หลังไฟเซอร์ อิงค์ได้ประกาศความคืบหน้าการผลิตวัคซีน COVID-19 อีกรอบ แต่สุดท้ายมีแรงซื้อกลับเข้ามาทำให้ราคาได้ดีดกลับขึ้นไปยืนระดับ 1,884 ดอลลาร์ได้ ก่อนที่ในวันนี้ราคาได้ลดลงมาอย่างต่อเนื่อง
กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์บูลเลี่ยน จำกัด ยังแนะนำว่าสถานการณ์การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้ ถือว่าเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องและรวดเร็วมาก ซึ่งจะเหมาะกับการลงทุนระยะสั้น หากวันนี้ราคาทองคำลดต่ำกว่า 1,855 ดอลลาร์ ถือเป็นจุดที่น่าทยอยเข้าลงทุน โดยแต่ละช่วงขอให้ทิ้งห่างกัน 8-10 ดอลลาร์ และให้ขายออกเมื่อมีกำไร ที่สำคัญควรปิดสถานะซื้อขายภายในวันเดียวกัน อย่าพยายามถือยาวเพื่อลดความเสี่ยงลง
นายวรชัย มองว่าหลังจากที่มีข่าวความคืบหน้าการผลิตวัคซีนป้องกัน COVID-19 ออกมาจาก 2 กลุ่ม ทั้ง Pfizer Inc ที่ร่วมกับ BioNTech ที่ได้ประกาศออกมา 2 รอบฉุดราคาร่วงลงหนักทั้ง 2 รอบ และกลุ่ม Moderna Inc ออกมาแถลงอีกรอบ ราคาร่วงลงมาหนักเช่นกัน แม้ว่าในช่วงท้ายจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาทำให้มีแรงดีดกลับ แต่ทำให้มองเห็นทิศทางของราคาทองคำที่เริ่มจะไม่สู้ดีนัก ประกอบกับการดูกราฟทางเทคนิค ก็ยิ่งมองเห็นว่าราคาระยะสั้นเป็นขาลง โดยอาจจะเห็นราคาลงไปทดสอบระดับ 1,800 ดอลลาร์ได้
“เชื่อว่าหลังจากนี้ จะมีบริษัทผลิตวัคซีนอื่นๆ ออกมาแถลงความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง (อ่านเพิ่มเติม..ข่าววัคซีน ป้องกัน COVID-19 คงไม่จบแค่นี้..ราคาทองคำยังต้องเจออีกหลายขนาน )เพราะมิฉะนั้นจะเสียโอกาสทางการตลาด รวมถึงอาจจะมีข่าวการยื่นขออนุญาตใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ในกรณีฉุกเฉินต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ หรือเอฟดีเอ จะยิ่งฉุดให้ราคาลดทองคำลดต่ำลง สุดท้ายเมื่อวัคซีนสามารถผลิตออกมาใช้งานได้จริงในวงกว้าง ก็อาจจะทำให้ทองคำถูกลดบทบาทความเป็นสินทรัพย์เสี่ยงลง โดยเป้าหมายที่นักวิเคราะห์มองไว้ว่าราคาจะพุ่งไปแตะ 2,200 ดอลลาร์ 2,500 ดอลลาร์ หรือ 3,000 ดอลลาร์ ก็อาจจะเป็นได้ยากมากขึ้น”
นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์บูลเลี่ยน จำกัดกล่าว กับ GOLDAROUND.COM
อย่างไรก็ตามกระบวนการต่างๆ ที่กล่าวมาคงจะไม่เกิดขึ้นในอย่างรวดเร็ว แต่จากภาพที่เกิดขึ้นทำให้นักลงทุนอาจจะต้องเตรียมตัวปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ในทางกลับกันหากวัคซีนไม่สามารถใช้งานได้จริงหรือมีผลข้างเคียง จะทำให้ความเชื่อมั่นหมดไป และสถานการณ์ทุกอย่างจะพลิกกลับอย่างรุนแรงเช่นกัน รวมถึงราคาทองคำที่จะกลับไปทะลุจุดสูงสุดเดิม และไปสร้างจุดสูงสุดใหม่เป็นไปได้มากเช่นกัน
ส่วนเรื่องของเศรษฐกิจหากว่าวัคซีนใช้ได้ผล เชื่อว่าทุกอย่างน่าจะผ่อนคลายมากขึ้น เฟดอาจจะต้องกลับมาทบทวนเรื่องของอัตราดอกเบี้ยใหม่ จากเดิมที่คาดว่าจะใช้ดอกเบี้ยต่ำไปอีก 2-3 ปี ก็อาจจะต้องลดลง แม้ว่าช่วงแรกอาจจะต้องอัดฉีดเงินอีกก้อนเพื่อให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปได้ก่อน ซึ่งอาจจะทำให้ราคาทองดีดตัวรับ แต่เมื่อทุกอย่างเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ทองคำก็จะกลับไปสู่จุดที่มีความสมดุล โดยราคาอาจจะลดต่ำลงมาอยู่ที่ 1,650-1,700 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นช่วงกลางของราคาต่ำสุดและสูงสุดของปีนี้
นอกจากนั้นยังต้องติดตามการเคลื่อนไหวของ กองทุน spdr อย่างใกล้ชิด เพราะในช่วงเดือนนี้เริ่มเทขายทองคำออกมาอย่างหนัก โดยตั้งแต่ต้นเดือนขายไปแล้วกว่า 40 ตัน (อ่านเพิ่มเติม..SPDR ยังเทขายทองคำรัวๆ เดือนนี้ติดลบเกือบ 40 ตัน) หลังจากที่ได้ซื้อมาตลอดทั้งปี ซึ่งก็เป็นปัจจัยที่สะท้อนถึงทิศทางราคาทองคำและสถานการณ์เศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำใช่ว่าจะมีแต่ข่าวลบที่มาดึงราคาให้ลดต่ำลง เพราะจะเห็นได้ว่าเมื่อราคาลดมาแตะแนวรับยังมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อในหลายพื้นที่ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา ทำให้อาจจะต้องมีการนำมาตรการล็อคดาวน์กลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลต่อการจ้างงานและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
นอกจากนั้นยังมีเรื่องของความไม่ชัดเจนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งทาง โดนัลด์ ทรัมป์ ยังมีความพยายามอย่างเต็มที่ในการคัดค้านผลการเลือกตั้งที่ออกมา แม้ว่าจะมีความเพียงน้อยนิดก็ตาม
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.