Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 27 ส.ค.63 (YLG)

- Advertisement -

1 555

- Advertisement -

แนะนำติดตามการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิดหากราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้านที่ 1,955-1,963 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรออกมา  แต่หากแรงซื้อยังคงหนาแน่น จะทำให้ราคาอ่อนตัวลงในระดับจำกัด

แนวรับ : 1,930 1,911 1,892 แนวต้าน : 1,963 1,984 2,006

สรุป  ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 25.71 ดอลลาร์ต่อออนซ์  หลังจากระหว่างวันราคาร่วงลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,902.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ  ขานรับการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดถึง 11.2% ในเดือนก.ค.  ก่อนที่ราคาทองคำจะทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งโดยได้รับแรงหนุนจาก 2 ปัจจัยหลัก  ได้แก่  1.) การคาดการณ์ว่านายพาวเวลล์  ประธานเฟด อาจส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม  พร้อมเปรยถึงการเปลี่ยนกรอบนโยบายเงินเฟ้อ (Inflation targeting)ไปสู่อัตราเงินเฟ้อโดยเฉลี่ย(Average-inflation targeting)ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง เวลา 20.10 น.วันนี้  ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวกดดันดอลลาร์ให้กลับมาอ่อนค่าจนกระตุ้นแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคำ  และ 2.) ความตึงเครียดจีน-สหรัฐในประเด็นทะเลจีนใต้  หลัง South China Morning Post รายงานว่า  จีนได้ปล่อยขีปนาวุธพิสัยกลาง 2 ลูกลงสู่ทะเลจีนใต้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา  ส่วนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ประกาศ “คว่ำบาตร” ต่อบริษัทจีนเพิ่มอีก 24 แห่งจากความพยายามช่วยเหลือจีน “ขยายอิทธิพลในทะเลจีนใต้” ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่ม  ส่งผลให้ราคาทองคำทะยานขึ้นกว่า 50 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับต่ำสุดในระหว่างวัน  สู่ระดับสูงสุดบริเวณ 1,954.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองเพิ่ม +3.22 ตัน  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยประมาณการครั้งที่ 2 จีดีพีไตรมาส 2/2020, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย  พร้อมจับตาสุนทรพจน์ของนายพาวเวลล์อย่างใกล้ชิด  โดยหากนายพาวเวลล์ยืนยันการดำเนินการดังที่กล่าวไว้ข้างต้นอาจเป็นปัจจัยหนุนทองคำ  กลับกันหากนายพาวเวลล์ไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆ นั่นเสี่ยงที่จะทำให้นักลงทุนผิดหวังและกดดันทองคำให้ร่วงลงได้

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+)เฟดชี้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้นอย่างมาก แต่ยังอยู่ห่างไกลจากระดับก่อนโควิด  นางมิเชล บาวแมน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างมาก หลังจากที่ได้ทรุดตัวลงในช่วงที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  อย่างไรก็ดี นางบาวแมนกล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ยังคงอยู่ห่างไกลจากระดับปกติ และจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อกลับไปสู่ภาวะดังกล่าว  “ความคืบหน้าไปสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างสมบูรณ์อาจจะเป็นไปอย่างเชื่องช้า และไม่ต่อเนื่อง aเฟดจะคอยจับตา และพร้อมรับมือ รวมทั้งใช้มาตรการที่ยืดหยุ่นเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัว” นางบาวแมนกล่าว
  • (+) ดอลล์อ่อนเทียบสกุลเงินหลัก นักลงทุนจับตาถ้อยแถลง”พาวเวล”  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันนี้  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.01% แตะที่ 93.0048 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.01 เยน จากระดับ 106.32 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3153 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3183 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.9086 ฟรังก์ จากระดับ 0.9077 ฟรังก์  ยูโรอ่อนค่าเมื่อเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1815 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1835 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3190 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3146 ดอลลาร์
  • (-) “โมเดอร์นา”เผยผลทดลองวัคซีนต้านโควิดกับอาสาสมัครสูงวัยได้ผลน่าพอใจ  โมเดอร์นา ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ เถลงในวันนี้ว่า ผลการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ในเฟสแรกกับอาสาสมัครที่มีอายุมากได้ผลเป็นที่น่าพอใจเหมือนกับที่ทดลองกับอาสาสมัครในวัยหนุ่มสาว  ทั้งนี้ บริษัทได้ทำการทดลองวัคซีนกับอาสาสมัคร 10 รายที่มีอายุ 56-70 ปี และอีก 10 รายที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 71 ปี โดยอาสาสมัครแต่ละรายได้รับการฉีดวัคซีน 2 เข็มๆ ละ 100 ไมโครกรัม  ผลการทดลองพบว่า ร่างกายของอาสาสมัครสามารถผลิตแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ (Neutralizing antibody) ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าแอนติบอดีดังกล่าวมีความสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19  นอกจากนี้ วัคซีนดังกล่าวไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรงต่ออาสาสมัคร
  • (-) สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพุ่งเกินคาดในเดือนก.ค.  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 11.2% ในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 4.3% หลังจากดีดตัวขึ้น 7.6% ในเดือนมิ.ย.ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนก.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากพุ่งขึ้น 4.3% ในเดือนมิ.ย.
  • (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 83.48 จุด,Nasdaq ทำนิวไฮต่อเนื่อง รับแรงซื้อหุ้นเทคโนฯ  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ยังคงปิดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนเดินหน้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่ว่าธุรกิจในภาคส่วนดังกล่าวจะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการที่ประชาชนต้องพึ่งพาระบบออนไลน์ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันนี้  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,331.92 จุด เพิ่มขึ้น 83.48 จุด หรือ +0.30% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,478.73 จุด เพิ่มขึ้น 35.11 จุด หรือ +1.02% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,665.06 จุด เพิ่มขึ้น 198.59 จุด หรือ +1.73%
  • (+/-) EU ยกเลิกแผนเจรจา Brexit สัปดาห์หน้า คาดอังกฤษพร้อมรับความเสี่ยง no-deal  หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียนรายงานว่า เยอรมนีได้ยกเลิกแผนที่จะหารือการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในการประชุมสุดยอดของบรรดาเอกอัครราชทูตของสหภาพยุโรป (EU) ในสัปดาห์หน้า  รายงานระบุว่า EU เชื่อว่ารัฐบาลอังกฤษพร้อมที่จะเสี่ยงออกจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit) เมื่อระยะเวลาเปลี่ยนผ่านสิ้นสุดลงในช่วงสิ้นปีนี้ และอังกฤษจะพยายามตำหนิ EU ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้การเจรจาล้มเหลว  ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเยอรมนี ซึ่งเป็นประธาน EU ในปีนี้ ต้องการที่จะหารือเกี่ยวกับกรณี Brexit ในวันที่ 2 ก.ย.ในการประชุมของบรรดาเอกอัครราชทูตของ EU แต่ขณะนี้ได้ยกเลิกแผนดังกล่าว เนื่องจากการเจรจาไม่มีความคืบหน้า

- Advertisement -

- Advertisement -

Leave A Reply

Your email address will not be published.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More