Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

Gold Outlook 2025 : คุณฐิติพงศ์ ดีมั่นคงวณิช T.D.C.GOLD

- Advertisement -

99

- Advertisement -

ทิศทางราคาทองคำ ปี 2568 – Gold Outlook 2025 EP5

สัมภาษณ์พิเศษ คุณฐิติพงศ์ ดีมั่นคงวณิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.ดี.ซี. โกลด์ จำกัด (T.D.C.GOLD)

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

คาดยุค “ทรัมป์ 2.0” ทองคำผันผวนแรง ช่วงต้นอาจขยับบวก ก่อน sideway down เหตุนโยบายทรัมป์ฯ ทำเงินเฟ้อลงยาก

คุณฐิติพงศ์ ดีมั่นคงวณิช กรรมการผู้จัดการ บจ.ที.ดี.ซี. โกลด์ (T.D.C. GOLD) กล่าวกับ GoldAround ว่า

- Advertisement -

ราคาทองคำยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา จนกระทั่ง “โดนัลด์ ทรัมป์” เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยราคายังยืนเหนือ 2,700 ดอลลาร์ ได้

แต่ในภาพรวมปีนี้ ทาง ที.ดี.ซี. โกลด์ ยังมองทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาเป็นลักษณะ sideway จนถึง sideway down โดยราคาทองคำอาจจะมีการปรับเพิ่มขึ้นได้บ้างเป็นช่วง ๆ แต่โดยรวมก็ยังมองเป็น sideway down เพราะดูปีนี้ปัจจัยบวกต่อทองคำมีน้อยลง

อันดับแรก คือ ทิศทางดอกเบี้ยในปีนี้ จากเดิมที่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา นักลงทุนประเมินว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED จะลดดอกเบี้ย 4 ครั้ง แต่หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง และตัวเลขเงินเฟ้อที่เริ่มลงยาก ทำให้มีการปรับคาดการว่าปีนี้ FED จะปรับลดดอกเบี้ยเหลือเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น

โดยเฉพาะหลังการกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งของ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีนโยบายกีดกันการค้า ขับไล่แรงงานข้ามชาติ ไปจนถึงการปรับลดภาษีนิติบุคคล ซึ่งนโยบายเหล่านี้ ก็จะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลลบต่อราคาทองคำ

อย่างไรก็ดี ยังมองว่ายังมีโอกาสที่จะเห็นราคาทองคำพุ่งทะลุจุดสูงสุดเดิมที่ 2,790 ดอลลาร์ ขึ้นไปทำจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ (AllTimeHigh : ATH) จากเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาเก็งกำไรเป็นช่วง ๆ แต่มองว่าอาจจะไปได้ไกลแถว 2,850 ดอลลาร์ โดยอาจจะไม่ได้มองขึ้นไปจนถึง 2,900 หรือ 3,000 ดอลลาร์ แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีโอกาส เพียงแต่ถ้าจะขึ้นไปขนาดนั้นอาจจะต้องมีสถานการณ์อื่น ๆ มาสนับสนุนด้วย

- Advertisement -

แต่ภาพรวมราคาจะเคลื่อนไหวผันผวน เพราะเมื่อย้อนไปดูในสมัยแรกของ “โดนัลด์ ทรัมป์” นั่งเก้าอี้ ปธน.สหรัฐฯ ภาคการเงินเคลื่อนไหวผันผวนพอสมควรไม่ใช่แค่ราคาทองคำ และตั้งแต่ ปธน.ทรัมป์ฯ เข้าดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้เห็นการออกนโยบายที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

ซึ่งเท่าที่ดูนโยบายแต่ละอย่างของทรัมป์ฯ จะมีผลให้เงินเฟ้อปรับลงยาก ซึ่งถ้าเงินเฟ้อไม่ลง มีโอกาสที่ดอกเบี้ยก็จะลงยากเช่นกัน และเมื่อดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับสูง ก็ไม่เป็นผลดีต่อราคา gold spot

ส่วนแนวรับแรก ยังมองแถว 2,550 ดอลลาร์ หากหลุดลงไปแนวรับถัดไปจะอยู่แถว 2,450 ดอลลาร์

ทั้งนี้ ต้องรอดูสถานการณ์อื่น ๆ ประกอบด้วย ทั้งเรื่องสงครามการค้า และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์

ส่วนราคาทองคำไทย กรอบด้านบน ถ้าราคาทองคำ gold spot แตะ 2,800 ดอลลาร์ และเงินบาทอยู่ที่ 34 บาทต่อดอลลาร์ ราคาทองไทยจะอยู่ในกรอบ 45,000-45,500 บาท ขณะที่กรอบล่าง ถ้าราคาทองคำ gold spot ลงแตะ 2,450 ดอลลาร์ เงินบาทอยู่ที่ 36 บาทต่อดอลลาร์ ราคาทองไทย จะลงไปแถว 42,000 บาท

โดยปีนี้ คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33-36 บาทต่อดอลลาร์ แต่มองแนวโน้มโอกาสที่จะอ่อนค่ามีมากกว่า

ปีนี้ภาพรวมมองว่า ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวผันผวน ดังนั้น นักลงุทนจะต้องวางแผนด้วยความระมัดระวัง ทั้งนี้ หากว่าเป็นการลงทุนระยะยาว จะเป็นการทยอยสะสม แบ่งสัดส่วนการซื้อเมื่อราคาย่อตัว ส่วนนักลงทุนระยะสั้น ต้องรอจับจังหวะราคา เพราะช่วงขาลง ถ้าย่อแล้วเข้าซื้อ เมื่อราคาปรับขึ้นมาก็ต้องมารีบขาย

ทั้งนี้ ทาง ที.ดี.ซี. โกลด์ ยังแนะนำการลงทุนลักษณะ DCA เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยเฉพาะกลุ่มลงทุนระยะยาว

กลยุทธ์ DCA ช่วยลดความเสี่ยงได้ดีในระดับนึง และที่ผ่านมาการลงทุนแบบ DCA จะกำไรพอสมควร เพราะราคาทองคำขยับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 8-10% ยกเว้นปีที่ผ่านมาที่ปรับขึ้นแรงกว่า 20%

รับชมคลิป ทิศทางราคาทองคำ ปี 2568 – Gold Outlook 2025

- Advertisement -

- Advertisement -

Comments are closed.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More