แม้ราคาทองคำจะพุ่งแรงแต่ต้องจับตาใกล้ชิด ปัญหา “รัสเซีย – ยูเครน” ยังเป็นตัวแปรสำคัญ พร้อมดันราคาทะลุ $2,750 หรือลงไป $2,580
คุณภัทริน วชิรคพรรณ Chief Operation Officer บจ.เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ กล่าวกับ GoldAround ว่า
ราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมา กลับมาเคลื่อนไหวนแดนบวกทั้งสัปดาห์ ก่อนจะปิดบวกมากถึง 150 ดอลลาร์ หรือประมาณ 5.9%
โดยได้แรงหนุนจากวิกฤตการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ทวีความรุนแรงขึ้น หลังยูเครนได้ยิงขีปนาวุธของสหรัฐฯ และอังกฤษ เข้าไปยังดินแดนของรัสเซีย
ก่อนที่ในวันถัดมาจะถูกรัสเซียยิงตอบโต้ และก่อนหน้านั้น นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้อนุมัติการใช้อาวุธนิวเคลียร์ เพื่อรับมือกับการโจมตีพรมแดนเป็นวงกว้าง ซึ่งต้องมาติดตามกันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการยิงขีปนาวุธใส่กันอีกหรือไม่
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 พ.ย.) นายมาร์ค รูตต์ เลขาธิการนาโต ได้หารือกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ฟลอริด้า เพื่อพูดคุยกันเกี่ยวกับประเด็นด้านความมั่นคงทั่วโลกที่กำลังเผชิญอยู่
ทั้งนี้ หากว่าการเจรจามีสัญญาณที่จะทำใหสถานการณ์ความขัดแย้งเบาลง ราคาทองคำอาจจะปรับตัวลงได้ เพราะที่ผ่านมาราคาทองคำมักจะปรับตัวขึ้นแรงในช่วงที่มีความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
ทั้งนี้ ประเด็นที่ต้องจับตามอง ก็คือ การปรับตัวขึ้นแรงของทองคำในรอบนี้ ได้ปรับตัวขึ้นพร้อมกับดอลลาร์สหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดในรอบสองปี และบิตคอยน์ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยพุ่งขึ้นทะลุ 98,000 ดอลลาร์ หรือมากกว่า 3.39 ล้านบาท
ขณะนี้ บิตคอยน์อยู่ห่างจากระดับ 100,000 ดอลลาร์ ไม่ถึง 3% และเมื่อถึงระดับดังกล่าว บิตคอยน์จะขึ้นแท่นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาดสูงกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 70 ล้านล้านบาท
เมื่อมาดูมุมมองทางเทคนิค
ทาง เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ มองว่า ราคาทองคำ gold spot ได้ปรับตัวขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ โดยปรับตัวขึ้นมามากกว่า 60% จากระยะที่ลงไปในช่วงก่อนหน้า ซึ่งไปทำจุดต่ำสุดที่ 2,536 ดอลลาร์
สัปดาห์นี้มีรายงานการประชุม FOMC เดือน พ.ย. ในช่วงกลางสัปดาห์ และตัวเลขดัชนีเงินเฟ้อ Core PCE Price ก่อนที่ในช่วงปลายสัปดาห์จะเป็นวันหยุดของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะทำให้การซื้อขายเบาบาง
แต่ทั้งนี้ คงต้องจับตาสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนอย่างใกล้ชิด ว่าจะขยายวงกว้างหรือไม่ เพราะจะชี้ให้เห็นว่า การขึ้นของราคาทองคำในรอบนี้จะเป็นแค่การรีบาวน์ขึ้นมาเพื่อลงต่อ หรือว่าจะกลับเป็นขาขึ้นรอบใหม่อีกครั้ง
ทั้งนี้ โซนแนวรับสำคัญอยู่ 2,650-2,640 ดอลลาร์ และ 2,620-2,610 ดอลลาร์ อาจพิจารณาเข้าซื้อ ณ โซนดังกล่าว หากราคาปรับตัวลงภายในสัปดาห์
ขณะที่ โซนแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 2,725-2,730 ดอลลาร์ และ 2,750-2,760 ดอลลาร์ หากราคายังคงขยับขึ้นต่อ ให้รอพิจารณาสัญญาณกลับตัวที่โซนดังกล่าวเพื่อขายทำกำไร
ส่วนราคาทองคำไทย
ได้ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงเช่นกัน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาบวกเพิ่มมาบาทละ 1,700 บาท โดยราคาทองคำแท่งในประเทศ ที่ สมาคมค้าทองคำ ประกาศเมื่อวันเสาร์ 23 พ.ย. ราคาขายออก 44,250 บาท ส่วนราคารับซื้ออยู่ที่ 44,150 บาท คำนวนจากค่าเงินบาทที่ 34.47 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ ราคาทองคำไทยยังเคลื่อนไหวตามราคาทองคำ gold spot หากว่าราคายังปรับตัวขึ้นต่อ ก็มีโอกาสจะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมได้ แต่หากราคา gold spot ปรับลดลงลึก ก็มีโอกาสกลับไปแถว 42,400 – 42,500 บาท ได้เช่นกัน
โดยให้แนวต้านราคาทองคำไทยที่ 44,400 – 44,500 บาท และ 44,900 – 45,000 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 43,500 – 43,400 บาท และ 43,100 – 43,000 บาท
Comments are closed.