World Gold Council (WGC) หรือ สภาทองคำโลก รายงานว่า เดือน มี.ค. ที่ผ่านมา กองทุน ETF ทั่วโลก ได้ซื้อทองคำ เพิ่มขึ้นถึง 187.3 ตัน
มากสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2016 ส่วนใหญ่มาจาก ETF ทองคำในอเมริกาเหนือ 100.6 ตัน และยุโรป 82.7 ตัน ขณะที่ฝั่งเอเชียซื้อทองคำเข้า 2.6 ตัน
ทั้งนี้ กองทุน ETF ทองคำ เริ่มซื้อทองคำ หลังจากเกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่าง รัสเซีย และ ยูเครน รวมถึงภัยคุกคามด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในตลาดหุ้น และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึง Federal Reserve จะเริ่มใช้วงจรนโยบายการเงินแบบใหม่ที่ก้าวร้าวก็ตาม
สภาทองคำโลก รายงานเพิ่มเติมว่า ปริมาณทองคำที่ซื้อในเดือน มี.ค. คิดเป็นเกือบ 70% ของปริมาณทองคำที่ไหลเข้าสู่ ETF ในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งมากถึง 269 ตัน
ขณะที่ ราคาทองคำในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8% ซึ่งเป็นผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่สองของปี 2020
นักวิเคราะห์มองว่า ทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด ท่ามกลางความอ่อนแอของตลาดตราสารทุน และตลาดตราสารหนี้ รวมถึงในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ซึ่งทองคำได้รับการพิสูจน์ว่า เป็นแหล่งกระจายความเสี่ยง และการรักษาความมั่งคั่งที่เชื่อถือได้
ทั้งนี้ เหตุการณ์ระหว่างรัสเซีย และ ยูเครน ได้เน้นย้ำว่า ทองคำเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ และได้รับการพิสูจน์แล้ว โดยจะเห็นได้จากปริมาณทองคำที่ไหลเข้ากองทุน ETF ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2016 หากนับเป็นรายเดือน
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.