SPDR กลับเข้าฟอร์ม เทขายทองคำออกอีก 7 ตัน หลัง “แอสตร้าเซนเนก้า” ระบุผลทดลองวัคซีน COVID-19 คืบหน้า 90% ฉุดราคาทองคำร่วงเกือบ 35 ดอลลาร์
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (21 พ.ย.) SPDR GOLD SHARES กองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้กลับมาขายทองคำแท่งอีก 7 ตัน ที่ราคา 1,835 ดอลลาร์ ทำให้ยอดการซื้อขายทองคำเดือนพฤศจิกายน ติดลบ 44.50ตัน และยอดการซื้อทองคำของ SPDR ในปีนี้ อยู่ที่ 319.92 ตัน รวมขณะนี้ SPDR ถือครองทองคำแท่งทั้งหมด 1,213.17 ตัน
ไปดูการซื้อ-ขายสัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เมื่อคืนนี้ปิดที่ 1,837.8 ดอลลาร์ ลดลง 34.6 ดอลลาร์ หรือ 1.85% ซึ่งเป็นการลดลงในวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.ปีนี้ โดยนักลงทุนลดการถือครองทองคำ หลังจากแอสตร้าเซนเนก้า ระบุ วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดมีประสิทธิภาพ 90% หลังจากที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้ออกมาระบุว่า ผลการวิเคราะห์เบื้องต้นพบว่าวัคซีนมีค่าประสิทธิภาพเฉลี่ย 70%
ขณะที่ ไฟเซอร์ อิงค์ และ BioNTech ได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เมื่อวันศุกร์ เพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉิน หากได้รับการอนุมัติ ก็จะทำให้ไฟเซอร์สามารถทยอยใช้วัคซีนดังกล่าวกับชาวอเมริกันกลุ่มต่างๆ โดยกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ จะได้รับการฉีดวัคซีนก่อน ขณะที่กลุ่มผู้ให้บริการในภาคส่วนที่สำคัญ ครูอาจารย์ คนจรจัด และนักโทษในเรือนจำ จะได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มต่อไป ตามมาด้วยกลุ่มเด็กและวัยรุ่น
นอกจากนี้ราคาทองคำยังถูกกดดันจาก ตัวเลข ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ที่ดีดตัวสู่ระดับ 57.9 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 68 เดือน จากระดับ 56.3 ในเดือนต.ค. ทั้งนี้ ดัชนี PMI อยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะขยายตัว ทั้งภาคการผลิตและบริการ
Cr : traderider.corp
CR :อินโฟเควสท์
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.