Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

ํYLG ชี้ราคาทองคำยังไปได้ หลังขยับเข้าใกล้ $1,800 ต่อเนื่อง

- Advertisement -

303

- Advertisement -

แม้ว่าภาพรวมของราคาทองคำในเดือนเมษายนที่ผ่านมีจะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่สามารถทะลุ 1,800 ดอลลาร์ไปได้ (ดูกราฟการเคลื่อนไหวราคาทองคำ) แต่จากปัจจัยทั้งด้านเทคนิคราคา และปัจจัยด้านข่าวสารต่างๆ ยังช่วยหนุนให้ราคาทองคำมีทิศทางที่ดีขึ้น

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวกับ GoldAround.com ว่า ในระยะสั้นราคาทองคำกลับมาเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น หลังทะลุกรอบ Sideway สีน้ำเงิน รวมถึงเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน และ Neckline ของรูปแบบ Double Bottom บริเวณ 1,758-1,760 ดอลลาร์ได้ แต่การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำยังคงเผชิญกับแรงขายเมื่อราคาปรับเข้าใกล้เส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน และแนวต้านจิตวิทยาบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ ขณะที่ระยะกลางราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway Down (Downtrend Line สีแดง) เช่นเดิม 

ตราบใดที่ราคาทองคำยังไม่ทะลุกรอบ Sideway Down ในระยะกลาง ราคายังมีโอกาสปรับฐานจึงต้องเน้นกลยุทธ์ขึ้นขาย-ลงซื้อ โดยเน้นลงทุนระยะสั้นเป็นหลัก การดีดตัวของราคาจะเป็นจังหวะที่นักลงทุนขายทำกำไรเพื่อเข้าซื้ออีกครั้งเมื่อราคาอ่อนตัวลง พร้อมตั้งขาดทุนประกอบ การลงทุนทุกครั้ง

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG กล่าว

เบื้องต้นประเมินว่า ราคาทองคำจะมีแนวโน้มที่จะคาดว่าราคาจะค่อยๆ ขยับทดสอบแนวต้าน 1,820 ดอลลาร์ ซึ่งหากไม่ผ่านจะเกิดการแกว่งตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง  อย่างไรก็ดีหากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,734-1,676 ดอลลาร์ได้อย่างแข็งแกร่งยังมีโอกาสค่อยๆ ขยับขึ้นทดสอบกรอบราคาด้านบนอีกครั้ง แต่หากผ่านแนวต้านแรกราคาจะมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,872 ดอลลาร์

- Advertisement -

ทั้งนี้มองแนวรับแรกอยู่ที่ 1,734 ดอลลาร์ หรือบาทละ : 25,600 บาท แนวรับต่อมาอยู่ที่ 1,676ดอลลาร์ หรือบาทละ : 24,750 บาท ขณะที่แนวต้านแรก 1,820 ดอลลาร์ หรือบาทละ: 26,900 บาท และแนวต้านต่อมาอยู่ที่ 1,872 :ดอลลาร์ หรือบาทละ 27,650 บาท

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG ได้กล่าวถึงภาพรวมการเคลื่อนไหวด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของราคาทองคำในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ประจำเดือนเม.ย.2021 ที่ประชุมมีมติ “คง” อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25%  และคงวงเงินเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือนตามเดิม

ขณะที่ถอยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด  หลังการประชุมสะท้อนแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป โดยนายพาวเวลล์ชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นชั่วคราวในปีนี้จะไม่เป็น ไปตามมาตรฐานสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับใกล้ศูนย์จึงมีความเหมาะสมจนกว่าเฟดจะบรรลุเป้าหมาย นอกจากนี้นายพาวเวลล์ยังย้ำชัดอีกว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะหาคือเกี่ยวกับการลด QE (QE tapering) สถานการณ์ดังกล่าว  กดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงจาก 1.659% สู่ระดับ 1.618% พร้อมกับกดดันให้ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.32% สู่ระดับ 90.597  

ส่วนแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)แถลงต่อสภาคองเกรสสหรัฐ ได้กดดันราคาทองคำ เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังที่เพิ่มขึ้น หมายถึงการที่กระทรวงการคลังจะต้องระดมทุนมากขึ้นผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ แม้ปธน.มีแผนจะนำเม็ดเงินส่วนหนึ่งมาจากการปรับขึ้นภาษีที่จัดเก็บต่อบริษัท เอกชนและชาวอเมริกันที่ร่ำรวยเพิ่มขึ้นก็ตาม 

ขอบคุณข้อมูล บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More