Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

แนะจับตาท่าที ปธ.FED ต่อการสกัดความร้อนแรงของบอนด์ยีลด์

- Advertisement -

213

- Advertisement -

ในช่วงที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐระยะยาว หรือ บอนด์ยีลด์เข้ามามีปัจจัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ โดยเฉพาะเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ การพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงของบอนด์ยีลด์ ฉุดให้ราคาทองคำลดต่ำลงทำสถิติต่ำสุดในรอบ 8 เดือน โดยลงมาแตะระดับ 1,717 ดอลลาร์ ก่อนจะมีแรงรีบาวด์กลับเข้ามาเล็กน้อย และดูเหมือนว่าการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ยังกดดันราคาทองคำอย่างหนัก(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม..)

นางสาว ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG ได้กล่าวถึงสาเหตุที่บอนด์ยีลด์ได้ปรับตัวสูงขึ้นว่า มาจาก 3 ประเด็นหลัก ประเด็นแรก เกิดการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงินและการคลังอย่างต่อเนื่อง บวกกับแนวโน้มการแจกจ่ายวัคซีน COVID-19 ทำให้ความต้องการถือครองพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง จึงหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจน

YLg gold bar goldaround 10.02
YLG gold bar goldaround

ประเด็นต่อมาคือการขาดดุลทางการคลังเพิ่มขึ้นจากการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลัง นั่นทำให้กระทรวงการคลังต้องเพิ่มการระดมทุนผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะยาว ซึ่งอุปทานพันธบัตรที่เพิ่มหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน และประเด็นสุดท้ายคือ เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงินและการคลัง กระตุ้นการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ หนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวปรับตัวสูงขึ้น

“ปัจจัยที่กล่าวมาหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ให้ทะยานขึ้นจากระดับ 0.99% ในช่วงปลายปี 2020 จนกระทั่งแตะระดับสูงสุดที่ 1.614% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และกดดันราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ย ส่วนบอนด์ยีลด์จะกดดันราคาทองคำอีกนานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับการคาดการการณ์ทางเศรษฐกิจในอนาคต รวมถึงการดำเนินการของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)เป็นสำคัญทั้งนี้ตราบใดที่นักลงทุนยังคงคาดการณ์เชิงบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และตราบใดที่เฟดยังไม่เข้ามาดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อชะลอการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ นั่นจะสร้างแรงหนุนให้กับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรต่อไป”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG กล่าวกับ GoldAround.com

- Advertisement -

อย่างไรก็ดีท้ายที่สุดแล้วการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงของบอนด์ยีลด์ ส่งผลต่อตลาดในวงกว้าง เนื่องจากทำให้ต้นทุนกู้ยืมของภาคธุรกิจพุ่งขึ้นและอาจกระทบต่อแผนการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน ดังนั้นหาก เฟดส่งสัญญาณออกมาตรการเพื่อจำกัดการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร จะชะลอการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวได้

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG กล่าวต่อไปว่า ในสัปดาห์นี้ต้องจับตาถ้อยแถลงของ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด เกี่ยวกับเศรษฐกิจในงานออนไลน์ที่จัดโดย Wall Street Journal ในวันช่วงกลางดึกของคืนวันพฤหัสต่อเนื่องไปจนถึงวันศุกร์ รวมถึงการแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆ อาทิ นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดนิวยอร์ก .นางลาเอล เบรนาร์ด ผู้ว่าการเฟด .นางแมรี ดาลี ประธานเฟดซานฟรานซิสโก และนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดชิคาโก

ทั้งนี้นักลงทุนในตลาดคาดหวังว่า จะเห็นท่าทีของประธานเฟด ต่อประเด็นที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาประธานเฟดได้ระบุว่าการเคลื่อนไหวที่สูงขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น นั่นทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณเล็กน้อยเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังที่สูงขึ้น ดังนั้นหากเจ้าหน้าที่เฟดยังคงส่งสัญญาณในเชิงไม่กังวลต่อการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอย่างที่แล้วมา อาจส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้นต่อไป ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ

ในทางกลับกัน หากเจ้าหน้าที่เฟดเริ่มแสดงความวิตกเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว อาจกระตุ้นให้นักลงทุนคาดการณ์ถึงการออกมาตรการจำกัดการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำได้

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More