Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

เจรจาเพดานหนี้สหรัฐฯ ตอน สุดท้ายก็ต้องจบ

- Advertisement -

2,326

- Advertisement -

สัญญาณเตือนความเป็นไปได้ของการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก ดังขึ้นเป็นระยะ ๆ

ด้วยความไม่แน่นอนเกี่ยวกับวันที่จริง ที่รัฐบาลจะไม่สามารถชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ แม้ว่า นางเจเนต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ จะปักธง deadline 1 มิ.ย.นี้

แต่นั่นก็เป็นการคำนวณเพียงคร่าวๆ และก็ดูตื่นตัวกว่าที่สำนักงานงบประมาณรัฐสภาที่คาดการณ์ไว้ ว่าน่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 15 มิถุนายนเสียด้วยซ้ำ

ปัจจุบันเพดานหนี้กำหนดไว้ที่ 31.381 ล้านล้านดอลลาร์ ขีดจำกัดนี้ถูกละเมิดมาตั้งแต่วันที่ 19 มกราคมแล้ว แต่ด้วยมาตรการพิเศษที่กระทรวงการคลังใช้ ทำให้สหรัฐยังคงสามารถจ่ายค่าใช้จ่ายที่ผ่านมาได้

สถานการณ์ดังกล่าวกลับสร้างความกังวลมากขึ้น เมื่อมีการอัพเดตยอดเงินคงเหลือในวันที่ 10 พฤษภาคม มีเพียง 88,000 ล้านดอลลาร์เท่านั้น เมื่อเทียบกับ 110,000 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ก่อนหน้า

- Advertisement -

เกมส์การเมืองยังคงดำเนินต่อไป เมื่อ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐนัดพูดคุยกับประธานสภา เควิน แมกคาธีร์ ในวันอังคารนี้ ก่อนมีกำหนดการเดินทางไปย่านเอเซียระหว่างวันที่ 17-24 พฤษภาคมนี้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำ G7 รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ในภูมิภาค

แม้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าแผนการขยายเพดานหนี้จะผ่านลุล่วงหรือไม่ แต่ ปธน.ไบเดนยังย้ำแผนเดินทางออกนอกประเทศเช่นเดิม

ในช่วงอดีตที่ผ่านมาสหรัฐยังไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ มีเพียงแต่ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ทางเทคนิคเท่านั้น และนั่นก็นำมาสู่การถูกลดอันดับเครดิตโดย S&P 1 ขั้น จาก AAA เป็น AA+ ขณะที่ Moody’s และ Fitch ปรับลด Outlook เพียงอย่างเดียวแต่คงอันดับไว้เช่นเดิม เป็น AAA Negative Outlook

ด้วยความที่ร่างกฎหมายฉบับล่าสุด เป็นการลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐในช่วง 10 ปีข้างหน้า 4.8 ล้านล้านเพื่อแลกกับการขยายเพดานหนี้ในรอบนี้ 1.5 ล้านล้านให้เป็น 32.9 ล้านล้าน ซึ่งดูขัดแย้งกับความประสงค์ของคุณไบเดนโดยสิ้นเชิง เลยเป็นที่มาของการล้มโต๊ะเจรจามาโดยตลอด

ทางออกของเรื่องนี้ มีความเป็นไปได้หลายททาง และผลกระทบก็คงมีความแตกต่างกันออกไป คือ

- Advertisement -

1.ทางเลือกที่ดีที่สุด คือ สภาคองเกรสสามารถเพิ่มเพดานหนี้อย่างถาวร แต่หากมีเงื่อนไขการปรับลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐพ่วงมาด้วย ก็อาจจะบั่นทอนการขยายตัวในอนาคตเพิ่มขึ้นก็อาจจะต้องมาหักลบกระทบอีกครั้งหนึ่ง

2.ทางเลือกรองลงมาคือ ระงับเพดานชั่วคราว หรือ อาจจะอนุญาตให้รัฐบาลดำเนินการเกินเพดานหนี้โดยไม่ต้องเพิ่ม ซึ่งนั่นก็ต้องผ่านการลงคะแนนเสียงข้างมากในทั้งสองสภาของรัฐสภาสหรัฐมาแล้ว

แม้นักวิชาการ สถาบันการเงินชั้นนำ รวมถึงนักเศรษฐศาสตร์ จะมีการเตือนว่าการเจรจาที่ล้มเหลวอาจนำไปสู่การสูญเสียงานจำนวนมากในสหรัฐ ตลาดการเงินทั่วโลกอาจปั่นป่วน หรืออาจนำไปสู่สถานการณ์ที่คล้ายกับวิกฤต การณ์ทางการเงินในปี 2551 ซึ่งมีลักษณะเด่นคืออัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้น และราคาตราสารทุนที่ดิ่งลง

แต่ในอีกมุมลึก ๆ ก็ยังมีความเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วสหรัฐจะสามารถผ่านความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ไปได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีที่ 1 หรือ ที่ 2 หรือวิธีอื่น ๆ

นอกจากนี้ แต่สิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ก็คือ กว่าจะมาถึง Deadline จริง ๆ หรือจะมาถึงการตัดสินใจเลือกวิธีแก้ปัญหาในข้อ 1 หรือ ข้อ 2 นั้น ที่ผ่านมาก็มักจะทำให้เกิดการ Shutdown หน่วยงานภาครัฐขึ้น และนั่นก็อีกหนึ่งผลกระทบที่ตลาดการเงินมักได้ก่อนฟ้าจะสดใสอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็เป็นได้

ที่มา : Shining Gold Bullion

- Advertisement -

Comments are closed.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More