- Advertisement -

สรุปข่าว ราคาทองคำ วันนี้ 24 เม.ย.66 | GoldAround Podcast

gold spot พักฐานต่อ ลุ้น $1,970 เอาอยู่หรือไม่ แต่ระยะสั้นไม่สู้ดี – SPDR ยังขายทองคำต่อเนื่อง ส่วนทองไทยยังอุ่นใจได้เงินบาทอ่อนค่าอุ้มไว้

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

.

.

- Advertisement -

รับชมคลิป สรุปข่าว ราคาทองคำ วันนี้ 24 เม.ย.66

gold spot พักฐานต่อ ลุ้น $1,970 เอาอยู่หรือไม่ แต่ระยะสั้นไม่สู้ดี – SPDR ยังขายทองคำต่อเนื่อง ส่วนทองไทยยังอุ่นใจได้เงินบาทอ่อนค่าอุ้มไว้

ราคา gold spot ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (17-21 เม.ย.) ปิดปรับตัวลดลง 21 ดอลลาร์

โดยราคาขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 2,015 ดอลลาร์ แต่ทว่าจุดที่น่าสนใจ คือ ราคาได้ลงมาทดสอบจุดต่ำสุดแถว ๆ 1,970 ดอลลาร์ 2 ครั้ง ก่อนจะมาปิดสัปดาห์ที่ 1,983 ดอลลาร์

แม้ว่าราคา gold spot จะไม่หลุดระระดับ 1,970 ดอลลาร์ ลงไป แต่สัญญาณระยะสั้นยังไม้สู้ดีนัก เพราะในช่วงต้นสัปดาห์ ข่าวในตารางที่สำคัญยังไม่ค่อยมี โอกาสที่ราคาจะไหลไปตามเทคนิคมีความเป็นไปได้สูง หากหลุดลงไปจากที่พูดคุยกับนักวิเคราะห์ของทาง บจ.ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน ก็ให้ไปรอดูแถว 1,960-5 และ 1,955 ดอลลาร์ หากยังหลุดลงต่อ ต้องกลับมาวางแผนกันใหม่

- Advertisement -

มาดูปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ หลัก ๆ ก็มาจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายตัวที่ยังไม่สู้ดีนัก แต่ก็ทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนัก เพราะถูกกดันจากความเห็นของจากเจ้าหน้าที่เฟด ที่ยังคงหนุนการขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่อยู่คงอยู่ระดับสูง

ขณะที่ กองทุน SPDR Gold Trust ยังคงขายทองคำออกมา

โดยภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมา ขายทองคำออกมา 4.04 ตัน

ไปดูราคาราคาทองคำแท่ง 96.5% เช้าวันนี้ ( 24 เม.ย.) สมาคมค้าทองคำ

ประกาศราคาเปิดตลาดแรกของสัปดาห์ ยังเท่ากับราคาของวันเสาร์ โดยราคาขายออก 32,400 บาท ส่วนราคารับซื้อ 32,300 บาท

ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองไทยปรับลดลงไปเพียง 200 บาท โดยได้ค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามาอุ้มไว้

ซึ่งเช้านี้ เงินบาทเปิดตลาดมาอ่อนค่าเล็กน้อย โดยอยู่ที่ 34.40 บาท ต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากเมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 34.38 บาทต่อดอลลาร์ และวันนี้ คาดว่าจะยังแกว่งตัวกรอบ 34.30 – 34.55 บาท ต่อดอลลาร์ เพื่อรอปัจจัยชี้นำใหม่

มาดูมุมมองของ บริษัทค้าทองคำในประเทศ

ทาง Ausiris ระบุว่า

เช้านี้ราคา gold spot เปิดตลาดไปแตะที่ 1,982 ดอลลาร์ หรือ ประมาณ 32,300 บาท โดยราคาทองคำมีแนวโน้มย่อตัว หลังไม่สามารถข้ามระดับ 2,015 ดอลลาร์ ได้ ทำให้กลับมาปรับฐานอีกครั้ง

ทั้งนี้ หากเบรคแนวต้าน 2015 ดอลลาร์ ได้ เป้าถัดไป คือ 2,020-2,048 ดอลลาร์ ก็จะปรับตัวเป็นขาขึ้นอีกครั้ง และราคาทองจะเสียรูปแบบขาขึ้นก็ต่อเมื่อปิดหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,976 ดอลลาร์

ขณะที่ สัญญาน RSI ในกราฟราย 4H วันนี้ เคลื่อนไหวเข้าสู่เขต over sold โซนแรงขายมากเกินไป จึงมีความเป็นไปได้ว่า ราคาอาจจะมีการดีดตัวขึ้นในลักษณะของการรีบาวน์ระยะสั้น ๆ

สำหรับวันนี้ แนะนำให้ซื้อขายตามกรอบแนวรับต้าน โดยเฉพาะผู้ซื้อไว้หากราคาขยับขึ้น ให้ทยอยขายทำกำไร โดยให้แนวรับ gold spot ที่ 1,967-1,960 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,990-2,000 ดอลลาร์

ส่วนทองคำ 96.5% แนวรับอยู่ที่ 32,150-32,050 บาท แนวต้าน 32,350-32,500 บาท โดยราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน

ด้าน ฮั่วเซ่งเฮง ระบุว่า

แนวโน้มราคาทองคำคาดอยู่ในช่วงของการปรับฐาน ราคาทองคำพยายามสร้างฐานที่ 1,970-1,980 ดอลลาร์ ถ้าหลุดแนวรับดังกล่าว คาดว่าจะมีแรงเทขายออกมามากและจะปรับตัวลงไปที่แนวรับ 1,950 ดอลลาร์

สัปดาห์นี้ ตลาดจับตาตัวเลขจีดีพีสหรัฐฯ ไตรมาส 1 และ อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ดัชนีราคา PCE พื้นฐานเดือน มี.ค.

ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า ระยะสั้นทองคำมีแนวรับ 1,970 ดอลลาร์ และ 1,950 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์ และ 2,010 ดอลลาร์

กลยุทธ์ แนะนำ เล่นสั้น หรือรอย่อซื้อสะสมเช่นเดิม จับตาแนวรับ 1,980 ดอลลาร์ ถ้าหลุดจะลงแรง ใช้แนวต้านที่ 2,015-2,023 ดอลลาร์ เป็นจุดขายทำกำไร

ปิดท้ายที่ YLG Bullion มองว่า

หลังจากราคาทิ้งตัวลงแรงในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาอาจฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้น แนะนำเสี่ยงเปิดสถานะซื้อทำกำไรระยะสั้น เมื่อราคาปรับลงเข้าใกล้กรอบด้านล่างบริเวณแนวรับ หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,972-1,969 ดอลลาร์ สถานะซื้อตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับ 1,949 ดอลลาร์ ปิดสถานะซื้อทำกำไรหากราคาปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านโซน 2,000-2,012 ดอลลาร์

สัปดาห์นี้ ยังมีตัวเลขเศรษฐกิจให้ติดตามหลายตัว

อาทิ ในวันอังคาร จะมี ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย. จาก Conference Board และ ยอดขายบ้านใหม่เดือน มี.ค.

ขณะที่ วันพฤหัสบดี จะมีตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ ตัวเลขประมาณการเบื้องต้นผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2566

ขณะที่ วันศุกร์ จะมีตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน มี.ค. ตัวนี้เฟดให้ความสำคัญ และจะเป็นอีกตัวเลขที่ใช้พิจารณาตัดสินใจการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม FOMC วันที่ 2-3 พ.ค. นี้

นอกจากนั้นยังมีตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

- Advertisement -