สรุปข่าว ราคาทองคำ วันนี้ 9 พ.ค.66 | GoldAround Podcast
gold spot ขยับกรอบแคบ รอดู CPI พรุ่งนี้ แต่ SPDR มาแรงตุนทองคำเพิ่มกว่า 5 ตัน ด้าน FED ยืนยันสถานะธนาคารยังแข็งแกร่ง
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
.
.
รับชมคลิป สรุปข่าว ราคาทองคำ วันนี้ 9 พ.ค.66
วานนี้ราคา gold spot เคลื่อนไหวในกรอบแคบ แค่ $15 ก่อนจะปิดตลาดที่ $2,021 เพิ่มขึ้นมา $5
ส่วนราคาทองคำแท่ง 96.5 ส่วนเช้านี้ (9 พ.ค.) สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรก ลดลง 100 บาท
ทำให้ราคาขายออกล่าสุด (10.00 น.) อยู่ที่ 32,350 บาท ราคารับซื้ออยู่ที่ 32,250 บาท หลังเงินบาทแข็งค่ามาอยู่แถว 33.74 บาท ต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ ราคา gold spot ได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินเดือน ในวันที่ 13-14 มิ.ย.
ซึ่งข้อมูลจาก FedWatch Tool ล่าสุด นักลงทุนให้น้ำหนัก 83.4% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% และให้น้ำหนักเพียง 16.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50%
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุม เดือน ก.ค. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุม เดือน ก.ย. และปรับลดอีก 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุม เดือน พ.ย. รวมทั้ง ปรับลดอีก 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุม เดือน ธ.ค.
นอกจากนั้น ราคาทองคำยังได้แรงหนุนจากความวิตกแบงค์ในสหรัฐฯ เสี่ยงล้มอีกหลายแห่ง แต่ทว่าทางธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้เผยรายงานด้านเสถียรภาพการเงินรอบครึ่งปีเมื่อวานนี้ (8 พ.ค.)
โดยระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐฯ มีความเสี่ยงด้านการระดมเงินทุนอยู่ในระดับต่ำ และมีสภาพคล่องที่เพียงพอ ส่วนการที่หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ดำเนินการเพิ่มเติมหลังจากการล่มสลายของ ธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ และ ซิกเนเจอร์ แบงก์ เป็นปัจจัยที่ช่วยพยุงระบบการเงิน หากมีภาวะตึงเครียดด้านการเงินเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
โดยเฟดมีความพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาสภาพคล่องที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต และเฟดมุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจว่า ระบบธนาคารของสหรัฐฯ ยังคงมีบทบาทที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ
รายงานของเฟดยังระบุด้วยว่า แม้จำนวนเงินฝากที่ไม่มีการรับประกันของธนาคารต่าง ๆ เริ่มปรับตัวลง แต่ตัวเลขดังกล่าวยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยสูงสุดในช่วงที่ประชาชนแห่ฝากเงินจำนวนมากเมื่อครั้งที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด แต่ถึงกระนั้น ภาพรวมของสถานะเงินทุนในภาคธนาคารยังคงแข็งแกร่ง
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังรอดูตัวดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในคืนวันพุธ และพฤหัส เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางของอัตราดอกเบี้ยของเฟด
โดยคาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป เดือน เม.ย. ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะทรงตัวที่ 5.0% เมื่อเทียบรายปี ส่วน ดัชนี CPI พื้นฐาน (core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เดือน เม.ย. จะปรับตัวขึ้น 5.5% เมื่อเทียบรายปี ลดลงจากเดือน มี.ค. ซึ่งอยู่ที่ะดับ 5.6%
ในวันนี้ แม้ว่าจะไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ แต่ต้องจับตาการหารือ ระหว่าง ปธน. โจ ไบเดน กับประธานสภาฯ ของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการขยายเพดานหนี้
ซึ่งก่อนหน้านี้ สำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐฯ เตือนว่า กระทรวงการคลังสหรัฐฯ อาจจะไม่สามารถชำระหนี้ทั้งหมดได้ในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย. ปีนี้ นอกเสียจากว่า กระทรวงฯ จะสามารถตกลงกับสภาคองเกรส เพื่ออนุมัติการปรับเพิ่มเพดานหนี้ หรือระงับเพดานหนี้ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนั้น ยังต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวของ กองทุน SPDR GOLD SHARES ที่วันนี้ ได้ซื้อทองคำแท่ง มากถึง 5.78 ตัน รวมเดือนนี้มียอดการซื้อขายทองคำเข้า เกือบ 20 ตัน
มาดูมุมมองการลงทุนทองคำจากบริษัทค้าทองคำในประเทศ
AUSIRIS ระบุว่า
เช้านี้ราคาทองคำเปิดตลาดไปที่ 2,021 ดอลลาร์ ส่วนทองคำแท่ง 96.5% อยู่ที่ 32,400 บาท โดยราคาทองมีสัญญาณกลับตัวขึ้นในกรอบเหนือแนวรับ 2,015 ดอลลาร์
สำหรับภาพใหญ่ ยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบเทรนด์ไลน์คู่ขนานขาขึ้น ทั้งนี้ ทองคำจะมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อหากสามารถเบรคแนวต้าน 2,030 ดอลลาร์ ได้
วันนี้ แนะนำรอย่อซื้อ ตามกรอบแนวรับ โดย gold spot มี แนวรับที่ 2,015 และ 2,007 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,030 และ 2,040 ดอลลาร์
ขณะที่ ทองคำ96.5% มีแนวรับที่ 32,380 และ 32,280 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 32,500 และ 32,650 บาท
ขณะที่ ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า
แนวโน้มราคาทองคำ spot คาดเคลื่อนไหวในลักษณะ sideways up โดยคาดยังติดแนวต้าน 2,030 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนรอติดตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. ที่จะประกาศในวันพุธและในวันพฤหัส
ระยะสั้น ทองคำมีแนวรับสำคัญที่ 2,000 และ 1,990 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้าน 2,030 และ 2,050 ดอลลาร์
ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์
ให้แนวรับรายวัน 1,982 และ 2,002 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,044 และ 2,075 ดอลลาร์
Comments are closed.