- Advertisement -

ราคาทองคำร่วงแรง เช้านี้ลดลงแตะ $1,680 หากนับจากจุดสูงสุดใน เดือน ส.ค. จนถึงเช้านี้ ลดลงไปกว่า $150 แล้ว และแนวโน้มระยะสั้นยังดูไม่น่าไว้วางใจ

เช่นเดียวกับราคาทองคำในประเทศ เช้านี้ลดลงอีก 400 บาท หากนับรวมในรอบ 7 วันที่ผ่านมา ลงไปแล้ว 700 บาท ทั้งที่ได้แรงหนุนจากเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง

สัปดาห์ที่ผ่านมาราคา gold spot ได้ปรับลดลงแรง จากปัจจัยที่กรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด หลายคนต่างออกมาแสดงความเห็นว่า อาจจะมีการลดวงเงินตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปีนี้

ต่อด้วยการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือน ก.ค. เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่เพิ่มขึ้น 943,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานเดือน ก.ค. ลดลงเหลือ 5.4% ดีกว่าตลาดคาดจะลดลงเป็น 5.7%

ทำให้ตลาดกังวลว่า เฟด จะเริ่มถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงินเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยตลาดคาดว่า เฟดอาจประกาศแผนลดวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์รายเดือนตามมาตรการ QE อย่างเป็นทางการ อย่างเร็วสุดในการประชุมนโยบายการเงินที่กำลังจะมาถึงนี้ ก่อนที่จะเริ่มต้นดำเนินการลด QE ภายในสิ้นปี 2021 หรือ ต้นปี 2022

- Advertisement -

จากการคาดการณ์ดังกล่าว หนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้น 0.58% พร้อมกับหนุนอัตราผลตอบ แทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีให้ดีดตัวสู่ระดับ 1.30%

ทำให้ราคาทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปิดตัวดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,758.66 ดอลลาร์ ลดลง 41.40 ดอลลาร์ หรือ -2.3% เป็นการปิดร่วงลงรายวันที่มากที่สุด นับตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย. พร้อมกับปิดปรับตัวลดลงในรายสัปดาห์ที่มากที่สุดในรอบ 2 เดือน

ก่อนที่เช้านี้ ราคาทองคำจะดิ่งลงต่อทำระดับต่ำสุดบริเวณ 1,680.23 ดอลลาร์ ก่อนจะมาเคลื่อนไหวแนว 1,737 ดอลลาร์ ( ดูกราฟการเคลื่อนไหวราคาทองคำ )

- Advertisement -

ส่วนราคาทองคำในประเทศ ที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำ ราคาแรกของสัปดาห์นี้ลดลงบาทละ 450 บาท ก่อนที่อีก 10 นาที ได้ปรับเพิ่มขึ้นบาทละ 50 บาท ทำให้ราคารับซื้อทองคำแท่ง ล่าสุดอยู่ที่บาทละ 27, 500 บาท ขณะที่ราคาขายออก อยู่ที่บาทละ 27,600 บาท ( ดูตารางราคาทองคำของสมาคมค้าทองคำ )

ทั้งนี้ ราคาทองคำในประเทศได้ปรับตัวลดลงรวม 700 บาท หากนับตั้งแต่วันจันทร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากค่าเงินบาทที่ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง ( อ่านข่าว.. จับตาเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าอีกฯ )

สัปดาห์นี้ติดตาม อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ทั้งดัชนีราคาผู้บริโภค และดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน ก.ค. ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 5.3% และ 7.4% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งจะมีผลต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอื่นๆ ได้แก่ จำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครเดือน มิ.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค. ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน รวมทั้ง ทิศทางเงินบาท เป็นปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองแท่งในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะที่วันนี้ ติดตาม การเปิดเผยตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ และถ้อยแถลงของ ประธานเฟดริชมอนด์ และ ประธานเฟดแอตแลนตา

มาดูการคาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวราคาทองคำวันนี้

YLG

แนวรับ 1,717 ดอลลาร์ 1,705 ดอลลาร์ และ1,680 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,760 ดอลลาร์ 1,778 ดอลลาร์ และ 1,796 ดอลลาร์

HGF

แนวรับ 1,700 ดอลลาร์ และ1,680 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,735 ดอลลาร์ และ 1,750 ดอลลาร์

SCT Gold

แนวรับ 1,750 ดอลลาร์ 1,743 ดอลลาร์ และ1,730 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,777 ดอลลาร์ 1,790 ดอลลาร์ และ 1,830 ดอลลาร์

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ซื้อ-ขาย หรือลงทุน หรือเป็นเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ และอาจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และหรือ ความเสียหายที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

- Advertisement -