- Advertisement -

ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวเกาะแนว 1,835 ดอลลาร์ไว้ได้ แม้ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา FDA จะไฟเขียวให้ใช้วัคซีนป้องกันCOVID-19 ของไฟเซอร์ ไปแล้ว แต่ทางเทคนิคแล้วราคายังดูไม่ปลอดภัยจนกว่าจะสามารถขึ้นไปยืนเหนือ 1,850 ดอลลาร์ได้ โดยสัปดาห์นี้ยังคงต้องจับตาผลการประชุมเฟดและการเจรจาเรื่อง Brexit รวมถึงผลการใช้วัคซีน ด้านราคาทองไทยขยับลงบาทละ 50 บาท

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำประจำวันที่ 14  ธ.ค. 2563

ทองคำแท่ง

รับซื้อ บาทละ 26,100.00 บาท

ขายออก บาทละ 26,200.00 บาท

- Advertisement -

ทองรูปพรรณ

รับซื้อ บาทละ 25,635.56 บาท

ขายออก บาทละ 26,700.00 บาท

ภาพรวมการเคลื่อนไหวราคา gold spot ในสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยปิดสัปดาห์ที่ 1,837 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าสหรัฐจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19

- Advertisement -

อย่างไรก็ดีราคาทองคำยังถูกกดดันจากข่าวเกี่ยวกับวัคซีนต้าน COVID-19 หลังองค์การอาหารและยา (FDA)ของสหรัฐ ได้อนุมัติวัคซีนต้าน COVID-19 ของ Pfizer-BioNTech สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และวัคซีนได้ถูกจัดส่งไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วสหรัฐเกือบ 150 แห่ง ในช่วงเช้าวันนี้(14 ธ.ค.ตามเวลาสหรัฐ)

นอกจากนั้นราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์  ท่าม กลางการดิ่งลงของปอนด์เนื่องจากความเสี่ยงของ No-deal Brexit เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ  หลังนายกฯอังกฤษ ระบุว่ามีโอกาสสูงที่จะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหภาพยุโรป

ด้านกองทุน SPDR Gold Trust ขายทองคำต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5  โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาขายทองคำ 6.71 ตัน

ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงครึ่งเช้าวันนี้ ราคายังคงขยับในกรอบแคบๆ ในแนว 1,835 ดอลลาร์ ซึ่ง YLG มองว่า ราคาฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้นแต่ไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,849 ดอลลาร์ ทำให้มีแรงขายที่ชัดเจนขึ้น แต่หากวันนี้ราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือ 1,823 ดอลลาร์ จะเกิดแรงขายเพิ่ม โดยแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,806 ดอลลาร์

ขณะที่ SCT gold มองว่า ภาพระยะสั้นทองคำน่าจะพยายามรีบาวด์ไปก่อนแล้วสลับการย่อตัว โดยหากราคาปิดเหนือ  1,850 ดอลลาร์ได้จริงๆในเดือนนี้ ก็มีลุ้นไปแถว 1,887 ดอลลาร์  1,900 ดอลลาร์ และ 1,925 ดอลลาร์ต่อไป ส่วนแนวรับสำคัญคือ 1,820 ดอลลาร์ คาดว่าราคาช่วงต้นสัปดาห์ทองอาจพยายามรีบาวด์แล้วจะเริ่มมาผันผวนเชิงลบช่วงการประชุม  FOMC  ในช่วงดึกวันพุธจนสุดสัปดาห์

ด้าน GT gold มองว่า การรีบาวด์ของราคาถูกกดไว้ด้วยเส้น MA ทำให้การแกว่งเกิดรูปแบบไหล่ขวาของ head & shoulder กรอบสวิงอยู่ระหว่าง 1,820-1,850 ดอลลาร์ ถ้าขึ้นทะลุ 1,850 ดอลลาร์ ยังต้องลุ้นกันต่อว่าจะเป็นขาขึ้นหรือไม่ แต่ถ้าหลุด 1,820 ดอลลาร์ มีความเสี่ยงว่าจะลงมาย้ำ 1,760 ดอลลาร์ อีกรอบ

ด้านราคาทองคำในประเทศเช้านี้ เปิดต้นสัปดาห์ปรับลดลงบาทละ 50 บาท ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทยังคงแข็งค่า จากเมื่อช่วงเช้าอยู่ที่  30.11 บาทต่อดอลลาร์ มาเคลื่อนไหวแถว 30.06 บาทต่อดอลลาร์

ประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ การเจรจาข้อตกลงอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)  และความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 สำหรับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดว่ามีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่เดิม 0-0.25% ที่สำคัญติดตามแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟดในปีหน้า

ไปดูการคาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในวันนี้

YLG

แนวรับ 1,823 ดอลลาร์ 1,806 ดอลลาร์ และ1,789 ดอลลาร์

แนวต้าน 1,849 ดอลลาร์ 1,860 ดอลลาร์ และ 1,875ดอลลาร์

HuaSengHeng

แนวรับ 1,825 ดอลลาร์  และ1,800 ดอลลาร์

แนวต้าน 1,850 ดอลลาร์  และ1,875 ดอลลาร์

GT Gold

แนวรับ 1,820 ดอลลาร์

แนวต้าน 1,850 ดอลลาร์

Gcap Gold

แนวต้าน 1,855 ดอลลาร์ 1,863 ดอลลาร์ และ1,868 ดอลลาร์

แนวรับ 1,812 ดอลลาร์ 1,808  ดอลลาร์ และ 1,803 ดอลลาร์

SCT Gold

แนวต้าน 1,850 ดอลลาร์ 1,872 ดอลลาร์ และ1,887 ดอลลาร์

แนวรับ 1,820 ดอลลาร์ 1,808 ดอลลาร์ และ 1,800  ดอลลาร์

Ausiris

จุดขาย 1,847 ดอลลาร์  หรือ บาทละ 26,250 บาท

จุดซื้อ 1,823 ดอลลาร์ หรือบาทละ 26,000 บาท

- Advertisement -