- Advertisement -

สภาทองคำโลก (WGC) ได้เปิดเผยรายงานฉบับล่าสุด โดยระบุว่าเดือน กันยายน เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการซื้อทองคำ

เนื่องจาก เป็นเดือนที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์สำหรับราคาทองคำ โดยคาดว่าจะมีผลตอบแทนที่เป็นบวก และถือเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนในการเพิ่มทองคำในพอร์ตลงทุน ก่อนจะย่างก้าวเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปี

ปัจจัยหนุนสำหรับราคาทองคำในเดือนนี้ คือ ความต้องการทางกายภาพที่แข็งแกร่ง ประกอบด้วยฤดูแต่งงานของอินเดีย และเทศกาลอื่น ๆ ที่จะมีขึ้นในช่วงเดือน ตุลาคม และ ต้นเดือน พฤศจิกายน และกิจกรรมการลงทุนทั่วโลกที่จะเพิ่มขึ้น หลังจากในช่วงที่ผ่านมาได้ลดลงต่อเนื่อง

นอกจากนั้น สภาทองคำโลกยังมองว่า ในช่วงเดือน สิงหาคม ราคาทองคำได้รับความสนใจน้อยเกินไป และเกิดความผิดพลาดในตลาด ทำให้ราคาทองคำมีการกระชากแรงในช่วงต้นเดือน สิงหาคม

อย่างไรก็ดี แม้จะมีความผันผวน แต่ในเดือน สิงหาคม ราคาทองคำก็ปิดเพิ่มขึ้น 0.6% แต่หากมองภาพรวมทั้งปี ราคาทองคำยังลดลง 4%

- Advertisement -

รายงานยังระบุด้วยว่า ภาพรวมตลาดการเงินทั่วโลกเดือน สิงหาคม ค่อนข้างเงียบ แม้วาตลาดหุ้นจะขยายตัว แต่ปริมาณเบาบางลง ส่วนราคาทองคำที่ลดลงเล็กน้อย มาจากกองทุน ETF ได้เทขายทองคำออกมาต่อเนื่อง และนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากราคาทองคำในเดือน กรกฎาคม เพิ่มสูงขึ้น แม้จะมีความผิดพลาดในการเคลื่อนไหวของราคาในวันที่ 9 สิงหาคม แต่ภาพรวมราคาทองคำก็สามารถปิดเดือน สิงหาคม ได้อย่างงดงาม

สภาทองคำโลกยังระบุถึงเหตุการณ์ ที่ทำให้ราคาทองคำกระชากลง 4% หลุดต่ำกว่าระดับ 1,700 ดอลลาร์ ในเวลาเพียง 15 นาที เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ว่า อาจเป็นเพราะสภาพคล่องของทุกสินทรัพย์ในตลาดโลกอยู่ในระดับต่ำ และเป็นการเทขายทางเทคนิค ไม่ว่าจะเป็น ‘death cross’ ที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน อยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน และนักลงทุนน่าจะมีการตั้ง stop loss ที่ระดับ 1,700 ดอลลาร์ จำนวนมาก จึงเกิดการขายเพิ่มเติม

รายงานยังระบุเพิ่มเติมว่า ท่ามกลางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มนักลงทุนสถาบัน ได้เตรียมเพิ่มทองคำในพอร์ตการลงทุนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่ง John Paulson ประธานและผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอที่ Paulson & Co และ Mark Mobius ผู้ก่อตั้ง Mobius Capital Partners มองว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่สะสมมูลค่า และเป็นสินทรัพย์หลัก หลังสกุลเงิน Fiat ลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากปัญหาเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ แม้ว่าเรื่องอัตราเงินเฟ้ออาจอยู่ได้ไม่นานในสายตาของธนาคารกลาง แต่ผู้บริโภคและนักลงทุนอาจรู้สึกแตกต่างออกไป ซึ่งอาจนำไปสู่การจัดสรรสินทรัพย์จริงที่เพิ่มขึ้น เช่น อสังหาริมทรัพย์ และสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ ซึ่งทำงานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีเงินเฟ้อสูงขึ้น

ที่มา : Kitco

- Advertisement -