ราคาทองคำในวันนี้(29 ธ.ค.) ยังเคลื่อนไหว ไซด์เวย์ในกรอบ 1,884-1,873 ดอลลาร์ ซึ่ง บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG มองว่า เมื่อพิจารณาจากทางเทคนิคในเดือน ธ.ค. ราคาทองคำมีการยกระดับตํ่าสุด(Higher Low) พร้อมกับทำระดับสูงสุดใหม่(Higher High) โดยในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปีราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนในกรอบ และยังคงยืนเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะ 10, 21 และ 50 วันได้ ทำให้ในระยะสั้น ราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในกรอบทิศทางขาขึ้น (Uptrend Line สีส้ม) สะท้อนแรงซื้อที่ยังคงสลับเข้ามา
อย่างไรก็ดี เมื่อราคาทองคำทดสอบกรอบด้านบนมักก็มีแรงขายสลับออกมาเช่นกัน โดยกรอบแนวต้านที่สำคัญของราคาทองคำยังเป็นกรอบ Sideway down ในระยะกลาง(กรอบ Downtrend Line สีแดง) ที่ล่าสุดราคาทองคำขึ้นไปทดสอบในวันจันทร์ที่ 21 ธ.ค. แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านไปได้ ทำให้ในระยะกลางราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway down เช่นเดิม
ส่วนความคืบหน้ามาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังรอบใหม่เพื่อเยียวผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 และร่างงบประมาณรายจ่ายวงเงินรวม 2.3 ล้านล้านดอลลาร์นั้น หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ยอมลงนาม ซึ่งได้กระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของสกุลเงิน จนเป็นผลให้ราคาทองคำทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อวันจันทร์ที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐเพิ่งอนุมัติเรื่องดังกล่าววานนี้ และได้ส่งต่อให้กับวุฒิสภาทำการพิจารณาเป็นลำดับต่อไปได้ส่งต่อให้กับวุฒิสภาทำการพิจารณาเป็นลำดับต่อไป
“อย่างไรก็ดีแม้เป็นที่คาดการณ์กันว่าวุฒิสภาที่ครองเสียงข้างมากโดยพรรครีพับลิกัน มีแนวโน้มปัดตกความพยายามของพรรคเดโมแครตตามข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่จะเพิ่มจำนวนเงินในเช็คเงินสดเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็น 2,000 ดอลลาร์จากเดิมที่ 600 ดอลลาร์ แต่หากวุฒิสภาสร้างความประหลาดใจด้วยการอนุมัติเรื่องดังกล่าว อาจกลายเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในช่วงส่งท้ายปีได้”
นางสาว ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG
ส่วนเรื่อง Brexit ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า สหภาพยุโรป (EU) และอังกฤษ ได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าหลังอังกฤษสหภาพแยกตัวออกจาก EU เรียบร้อยแล้ว รอเพียงรัฐสภาอังกฤษให้สัตยาบันต่อข้อตกลงดังกล่าวภายในสิ้นปีนี้ ก่อนข้อตกลงจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2021 ขณะที่ EU มีแนวโน้มที่จะกำหนดให้ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ชั่วคราวไปจนกว่าที่รัฐสภายุโรปจะลงมติในปี 2564
สถานการณ์ดังกล่าวหนุนให้ปอนด์แข็งค่าขึ้น จนกดดันดอลลาร์และหนุนราคาทองคำในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ทาง YLG คาดว่าราคาทองคำมีการตอบรับ(Price in) ข่าวดังกล่าวไปพอสมควรแล้ว ดังนั้นเชื่อได้ว่าจุดโฟกัสของตลาดจะเปลี่ยนไปเป็นปัจจัยอื่นแทน
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.