- Advertisement -

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้ยังคงขยับเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ต้นเดือนธันวาคม และราคาเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน โดยมีการพุ่งขึ้นแรง สลับทิ้งตัวหนักอยู่หลายรอบ โดยนักลงทุนยังคงรอความชัดเจนในหลายๆ เรื่อง

แม้ว่าเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นไปแตะระดับ 1,875 ดอลลาร์ ก่อนจะทิ้งตัวลงแรงมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,825 ดอลลาร์ แต่ยังมองว่าภาพโดยรวมยังดูดี และเป็นการลงมาพักฐานเพื่อไปต่อ โดยหากในสุดสัปดาห์นี้ราคาสามารถยืนในกรอบ 1,820-1,840 ดอลลาร์ได้ คาดว่าในสัปดาห์หน้าราคาจะค่อยๆ เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายหลักที่ระดับ 1,950 ดอลลาร์ ซึ่งอาจจะไม่เห็นในปีนี้ โดยคาดว่าก่อนสิ้นปีจะมีโอกาสลุ้นระดับ 1,900 ดอลลาร์ ได้

นายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด กล่าวกับ GOLDAROUND.COM

ในทางกลับกันหากมีเหตุการณ์ หรือปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำหลุดระดับ 1,820 ดอลลาร์ ลงมา ก็จะมีฐานระดับ 1,765 ดอลลาร์ คอยอุ้มไว้ ซึ่งจุดดังกล่าวถือเป็นแนวรับสำคัญ เพราะเมื่อดูจาก  Fibo เส้นที่แข็งแรงสุดคือ 50 % และเมื่อนำจุดสูงสุดที่ 2,070 ดอลลาร์ ในเดือนสิงหาคม  มาลบจุดต่ำสุดที่ 1,455 ดอลลาร์ เมื่อเดือนมีนาคม  ก่อนจะนำมาหารครึ่งจะพบว่าแนวรับหลักจะอยู่ที่ 1,765 ดอลลาร์ ที่สำคัญราคาทองคำได้ลงไปแตะถึงจุดดังกล่าวแล้วในช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้คาดว่าหลังจากนี้น่าจะเป็นช่วงปรับตัวขึ้น

กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า หากว่าราคาทองคำได้ทิ้งตัวกลับมาแนว 1,820-25 ดอลลาร์อีกรอบ ถือว่าเป็นจุดที่น่าเข้าซื้อลงทุน ทั้ง gold spot และราคาทองคำในประเทศ ที่ได้รับประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินบาท เพื่อรอไปไปขายทำกำไรเมื่อราคาขยับสูงขึ้นในช่วงถัดไป

- Advertisement -

ส่วนปัจจัยที่ต้องจับตามอง และคาดว่าอาจะส่งผลกระทบต่องราคาทอง ได้แก่ผลการพิจารณาอนุมัติให้ใช้วัคซีนป้องกัน COVID-19 จาก FDA ซึ่งในประเด็นนี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด มองว่าอาจจะไม่ส่งผลกระทบกับราคาทองคำเหมือนช่วงการประกาศความคืบหน้าการทดลอง เพราะเชื่อว่าตลาดได้คาดการณ์ไว้แล้วว่า ทั้งวัคซีนของไฟเซอร์ และโมเดนา น่าจะได้รับการอนุมัติ แต่สิ่งที่ต้องติดตามหลังจากนี้คือผลการใช้วัคซีนดังกล่าว หากใช้ไม่ได้ผลหรือมีผลค้างเคียง ก็อาจจะส่งผลดีต่อราคาทองคำ

ส่วนเรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐรอบใหม่ หากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ตกลงกันได้และมีการอัดฉีดเงินก้อนใหม่ออกมา ก็คาดว่าจะทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นและราคาทองคำเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่หลังจากนี้ ปัญหาที่เกิดจากการอัดฉีดเงินปริมาณมหาศาลเข้าระบบในช่วงที่ผ่านมา จะเริ่มเด่นชัดมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลง และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น จะดันให้ราคาสินค้าเพื่อการลงทุนจะทยอยปรับราคาขึ้นรวมถึงทองคำด้วย

ขอบคุณ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด

- Advertisement -