- Advertisement -

ราคาทองคำอ่วมอรทัย หลังบอนด์ยีลด์พุ่งสูงในรอบ 14 เดือน กูรูต่างชาติแนะจับตา แพคเกจ “โจ ไบเดน” รอบใหม่ มูลค่ากว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ อาจดันให้ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง เพราะ จะช่วยให้ ศก.สหรัฐฟื้นตัวเร็ว และจะดันบอนด์ยีลด์พุ่งแตะ 2% ภายในปีนี้ แต่มีนักวิเคราะห์อีกส่วนระบุ อัดฉีดหนักเงินเฟ้อเพิ่ม จะส่งผลดีต่อราคาทองคำระยะยาว 

ราคาทองคำเมื่อวานนี้ ( 30 มี.ค.) ได้ร่วงหลุดแนวรับสำคัญระดับ 1,700 ดอลลาร์ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,678 ดอลลาร์  ก่อนจะมาเคลื่อนไหวแถว 1,687 ดอลลาร์ ปัจจัยหลักมาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 10 ปีของสหรัฐ ได้พุ่งแตะระดับ 1.77%  สูงสุดในรอบ 14 เดือน มากสุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2559 เมื่อ “โดนัลด์ ทรัมป์” ชนะการเลือกตัังประธานาธิบดีสหรัฐ

ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 10 สหรัฐ มีแนวโน้มจะยิ่งสูงขึ้น เมื่อนักลงทุนคาดการณ์ว่าจะมีเม็ดเงินอีกจำนวนมากไหลเข้านระบบ หลัง ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้แถลงรายละเอียดแผนกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ วงเงินมากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ในวันพุธนี้ โดยจะเป็นการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน การจ้างงาน และจะมีเรื่องการขึ้นภาษี ซึ่งเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมทีผ่านมา ปธน. โจ ไบเดน เพิ่งลงนามในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีชื่อว่า “American Rescue Plan Act of 2021″ วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ไป

นอกจากนั้น ปธน.ไบเดน ยังเชื่อมั่นในแผนการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด – 19 ให้กับชาวอเมริกัน โดยตั้งเป้าว่าภายในวันที่ 19 เมษายน จำนวน 90% ของชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่จะได้รับการฉีดวัคซีน และ90 % ของประชาชนโดยรอบสถานที่ฉีดวัคซีนในรัศมี 5 ไมล์จะได้รับการฉีดวัคซีนเช่นกัน โดยเป้าหมายสูงสุดของแผนการนี้ก็คือทำให้ชาวอเมริกันสามารถเข้าร่วมทำกิจกรรมในการฉลองวันชาติสหรัฐได้ รวมถึงจะช่วยให้เศรษฐกิจของสหรัฐจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วกว่าที่คาดไว้

เมื่อมาดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญที่ 1,700 ดอลลาร์ไว้ได้ และทำให้ราคาทองคำลดลงไปแล้ว 12.5% จากปีที่ผ่านมา และเป็นการลดลงในไตรมาสแรก นับตั้งแต่ปี 2018

- Advertisement -

ทั้งนี้นักลงทุนได้ขายทองคำ เพื่อโยกเงินไปสู่ดอลลาร์ ทำให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน เกิดแรงกดดันเพิ่มเติมต่อทองคำโดยตรง

นักวิเคราะห์จากสหรัฐได้ชี้ว่า การปรับตัวขึ้นของดัชนีดอลลาร์ ที่ได้รับแรงหนุนจากความหวังจากการฟื้นตัวของศก.สหรัฐ ดีกว่าและเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้  เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาทองคำลดลง และแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ทำได้เร็วกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ทำให้คาดว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาด ซึ่งจะทำให้ความต้องการของเงินดอลลาร์มีมากขึ้นในช่วงนี้ ยิ่งทำให้กดดันราคาทองคำโดยตรง รวมถึงผลตอบแทนของพันธบัตรระยะ10 ปีของสหรัฐ ก็คาดว่าจะปรับขึ้น 2% ภายในสิ้นปีนี้

อย่างไรก็ดียังมีนักวิเคราะห์อีกกลุ่มมองว่า การประกาศแพคเกจกระตุ้นศก.เพิ่มเติมรอบใหม่ ที่มีมูลค่ากมากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ ของ ปธน. “โจ ไบเดน” จะส่งผลดีต่อราคาทองคำในระยะยาว เนื่องจากจะทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อที่มากขึ้น และนั่นก็คือโอกาสที่ราคาทองคำจะกลับมา

CR: Kitco News

- Advertisement -