- Advertisement -

ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด จะจัดการประชุมนโยบายการเงินประจำเดือน มิ.ย. ในวันที่ 15-16 มิ.ย. 2021 โดยการประชุมครั้งนี้ ได้รับการจับตามองจากทุกฝ่าย หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐๆ ได้พุ่งสูงขึ้น ซึ่งต้องมารอฟังผลประชุมว่าจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ขณะนี้ราคาทองคำได้ร่วงมาปรับฐานเรียบร้อยแล้ว

นางสาว ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวกับ GoldAround.com ว่า เมื่อมองการณ์คาดการของตลาดผ่านทาง CME Fedwatch tool พบว่า เฟดมีแนวโน้ม 96% ที่คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมนัดนี้และตลอดปี 2021 และน่าจะยังคง QE ตามเดิมเช่นกัน เนื่องจากการประชุมรอบนี้เป็นการประชุมรายไตรมาส จึงมีรายงานที่ต้องติดตามเพิ่มเติม รวมถึงการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดเริ่มคาดการณ์ว่า เฟด จะกลับมาใช้นโยบายการเงินแบบปกติ (Policy normalization) ในที่สุด

ประเด็นสำคัญ ที่ตลาดกำลังจับตาอย่างใกล้ชิด จากการประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วย Economic Projections (รายงานคาดการณ์ GDP, อัตราการว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อของเฟด) ซึ่งทาง ING คาดการณ์ว่าเฟดจะมีการปรับ “เพิ่ม” การคาดการณ์ GDP และปรับ “เพิ่ม” การคาดการณ์อัตราการว่างงานขึ้นเล็กน้อย แต่ “เพิ่ม” การคาดการณ์เงินเฟ้อ (ตาราง 1)

ทั้งนี้หากเฟดปรับเพิ่มคาดการณ์ทางเศรษฐกิจมากขึ้น จะเป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์ และกดดันราคาทองคำ

- Advertisement -

ประเด็นต่อมา คือ Dot Plot (คาดการณ์อัตราดอกเบี้ย ของเจ้าหน้าที่เฟด) ตลาดคาดการณ์ว่าอาจมีเจ้าหน้าที่เฟดบางรายพูดถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแต่ อาจยังไม่มากพอที่จะเปลี่ยน Median ของการคาดการณ์โดยรวม ซึ่งจะยังคงบ่งชี้ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปัจจุบันไปจนถึงปี 2023 เช่นเดิม ทั้งนี้ หาก Dot Plot บ่ง ชี้ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำในระยะยาวจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ

เรื่องสุดท้าย คือ ต้องรอฟังการแถลงการณ์ของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ซึ่งตลาดจับตามุมมองของประธานเฟดต่อการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมา รวมไปถึงความชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินการเข้าซื้อ สินทรัพย์ตามมาตรการ QE (QE Taperimg) ของเฟดอย่างใกล้ชิด และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำ

ทั้งนี้ หากแถลงการณ์ของประธานเฟด ยังคงย้ำจุดยืนเดิม ทั้งในแง่ของการปรับลด QE และขึ้นดอกเบี้ย และการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ จะเป็นปัจจัยกระตุ้นแรงซื้อทองคำ กลับกัน หากเฟดส่งสัญญาณในเชิง Hawkish มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ หรือ มีการส่งสัญญาณเริ่มหารือถึงการปรับลด QE ในอนาคต ต้องระวังการกลับมาแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งจะส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคำได้

“จะเห็นได้ว่าผลการประชุมเฟดครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง และผลการประชุมมีโอกาสเป็นได้ทั้ง ปัจจัยบวกและปัจจัยลบต่อราคาทองคำ ดังนั้นแนะนำนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยพยายามลดสถานะเพื่อควบคุมความเสี่ยง”
(ตาราง 2)

- Advertisement -

FYI : Fed to announce QE taper in August or September on rising inflation concerns: Reuters poll

ส่วนประเด็นที่ว่า เฟด จะประกาศแผนการปรับลดวงเงิน QE เมื่อใดนั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG กล่าวว่า เมื่อไปดูผลสำรวจมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ เกือบ 60% มองว่า จะเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 3 โดย 26% คาดการณ์ว่าจะเกิดในการประชุมประจำปีของเฟดที่ Jackson Hole ในเดือน ส.ค. ส่วนนักเศรษฐศาสตร์อีก 32% คาดการณ์ว่าจะเกิดในการประชุมประจำเดือน ก.ย. อีก 42% คาดว่า จะมีการประกาศแผนลดวงเงิน QE หลังจากไตรมาสที่ 3 ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์เกือบ 60% คาดว่า เฟดจะเริ่มลด QE ในไตรมาสแรกของปี 2022 มีนักเศรษฐศาสตร์เพียง 31% การลดลง QE จะเริ่มต้นขึ้นจริงในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

ขณะที่ Goldman Sachs คาดว่าผู้กำหนดนโยบายของเฟดจะส่งสัญญาณล่วงหน้าเกี่ยวกับการเริ่มต้นการลดวงเงิน QE ในช่วงครึ่งหลังของปี 2021 ก่อนจะดำเนินการลด QE จริงในช่วงต้นปี 2022 โดย Goldman Sachs คาดว่าจะมีการลดวงเงิน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อการประชุมซึ่งจะทำให้ยอดรวมของวงเงิน QE กลับมาเป็นศูนย์ในต้นปี 2023 ก่อนจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครังแรกในช่วงครึ่งปีหลัง ของปี 2023 (ตาราง 3)

ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด

- Advertisement -