ทิศทางราคาทองคำ 2566 – Gold Outlook 2023 EP7 : ฟังมุมมองจาก คุณวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี ผู้บริหาร บจ.ห้างขายทอง จินฮั้วเฮง (คลิป)
ทิศทางราคาทองคำ 2566 – Gold Outlook 2023 EP7
ฟังมุมมองจาก คุณวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี ผู้บริหาร บจ.ห้างขายทอง จินฮั้วเฮง
ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
เศรษฐกิจเริ่มฟื้น การค้าทองไทยเริ่มกลับมาคึกคัก นักลงทุนทองรอจังหวะเข้าซื้อ จับตาการชะลอปรับดอกเบี้ยเฟด
คุณ วรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี ผู้บริหาร บจ.ห้างขายทอง จินฮั้วเฮง กล่าวกับ GoldAround.com ว่า
ราคาทองคำเมื่อปีที่ผ่านมา หลายคนมองว่าเป็นขาลง เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มขยับดอกเบี้ย แต่ในช่วงต้นปีผลพวงจากสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาทองคำขยับขึ้นมาแรง เพราะราคาพลังงานได้ปรับตัวขึ้นสูง และเกิดภาวะเงินเฟ้อตามา
ขณะที่ ราคาทองคำในประเทศได้แรงหนุนจากความผันผวนของเงินบาท โดยค่าเงินบาทได้แข็งค่าขึ้นมาถึงระดับ 38 บาทต่อดอลลาร์
ซึ่งค่าเงินบาทได้เข้ามาอุ้มราคาทองคำในประเทศไว้มาก เพราะเมื่อไปเทียบกับราคา gold spot ในช่วงที่ลงไปแตะ 1,620 ดอลลาร์ ราคาทองคำในประเทศยังเคลื่อนไหวแถว 29,000 บาท
ซึ่งหาก gold spot อยู่ที่ 1,620 ดอลลาร์ และ ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32 บาท เช่นในปัจจุบัน ราคาทองคำควรจะหลุดที่ระดับ 27,000 บาท ลงไปแล้ว
รับชมคลิป
ทำให้มุมมองส่วนตัวในปีนี้ ยังมองว่า ค่าเงินบาทจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในประเทศ
เพราะดูจากเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ราคา gold spot อยู่ที่ 1,820 ดอลลาร์ แต่ ณ ขณะนี้ อยู่ที่ 1,920 ดอลลาร์ ราคา gold spot เพิ่มขึ้นมา 100 ดอลลาร์ แต่ค่าเงินบาทได้แข็งค่าขึ้นมาจากต้นปี อยู่ที่ 34.4 ผ่านมา 2 สัปดาห์ เงินบาทแข็งค่ามาอยู่ที่ 32.8 บาท ต่อดอลลาร์ เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาถึงบาทละเกือบ 2 บาท จึงทำให้ราคาทองคำในประเทศขยับไม่มากนัก
ส่วนมุมมองของราคา gold spot ปีนี้ ยังมองว่า เมื่อเฟดส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ และจะยังคงดอกเบี้ยระดับสูงไว้ทั้งปี ก่อนที่จะค่อยมาพิจารณากันอีกครั้ง ว่าจะปรับลดดอกเบี้ยลงหรือไม่
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ มองว่า gold spot ปีนี้จะเป็นขาขึ้นได้ แต่ต้องมาลุ้นว่าจะผ่านจุดสูงสุดเดิมของปีที่แล้วที่ระดับ 2,050 ดอลลาร์ ได้หรือไม่ เพราะว่าจุดสูงสุดของปีที่แล้ว ได้แรงหนุนจากภาวะสงคราม
ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคา gold spot ในปีนี้ มาจากปัจจัยพื้นฐาน ทั้งเรื่องของอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง และเฟดเริ่มชะลอการขึ้นดอกเบี้ย
จึงต้องมาดูว่าจะมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามากระทบหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย เพราะฉะนั้นขณะนี้ตลาดกำลังเฝ้าดูท่าทีของเฟดว่า ในการประชุมครั้งถัดไปช่วงปลายเดือน ม.ค. ต่อ ต้นเดือน ก.พ. ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเท่าไร ระหว่าง 0.25% กับ 0.5%
ในความเห็นส่วนตัวมองว่า ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ ราคาทองคำยังจะเพิ่มขึ้นต่อได้ แต่ต้องวิ่งผ่านระดับ 2,020 ดอลลาร์ ไปให้ได้ก่อน ซึ่งขณะนี้ ก็ยังมีพื้นที่ให้ไต่ขึ้นไปได้ประมาณ 100 ดอลลาร์
ส่วนเรื่องของค่าเงินบาท หากเฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เงินดอลลาร์ก็ไม่ควรจะแข็งค่าขึ้นไปมากกว่านี้ และก็จะทำให้ค่าเงินบาทไม่น่าจะอ่อนมากไปกว่านี้แล้วเช่นกัน
ซึ่งค่าเงินบาทในปีที่ผ่านมา ยอมรับว่าผันผวนสูง โดยได้ขึ้นไปแต่ระดับ 38 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนจะแข็งค่าขึ้นมาแตะระดับ 34 บาท ซึ่งเป็นสภาวะที่ไม่เคยเจอมาก่อน
ดังนั้น หากว่าสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่พลิกผันไปมากกว่านี้ ค่าเงินบาทอาจจะมีความเสถียรภาพมากขึ้น ที่ระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ และไม่ควรจะหลุด 32 บาท ต่อดอลลาร์ ลงไป เพราะการชะลอดอกเบี้ยจะไม่ทำให้ดอลล่าแข็งแกร่งเหมือนเช่นที่ผ่านมา
ส่วนกรอบราคาทองคำในประเทศในปีนี้ คาดว่าจุดสูงสุดจะอยู่ที่แถว 31,000 บาท อาจจะบวกลบนิดเล็กน้อย ส่วนฝั่งแนวรับน่าจะอยู่แถวประมาณ 28,500 บาท อาจจะบวกลบนิดเล็กน้อยเช่นกัน
ส่วนราคาทองคำในประเทศจะทะลุจุดสูงสุดเดิม ที่ระดับ 32,000 บาท ไปได้หรือไม่ ขึ้นอยู่ค่าเงินบาท เพราะถ้าเทียบจาก Gold Spot ที่ระดับ 2,050 ดอลลาร์ กับเงินบาทที่ 32 บาท ก็ยังไม่ทะลุระดับ 32,000 บาท ขึ้นไปได้
ทำให้มองว่า ปีนี้การลงทุนทองไทยจะยากขึ้น ไม่เหมือนปีที่ผ่านมา ที่ได้แรงหนุนจากเรื่องของค่าเงินบาทอ่อนค่า
ส่วนเรื่องของการซื้อขายทองรูปพรรณในประเทศ มองว่า
ธุรกิจภาพรวมเริ่มมีการฟื้นตัว หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดได้ผ่านพ้นไป ทำให้เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว และประเทศจีนก็มีการเปิดประเทศ
ซึ่งหลังจากนี้ เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศต้องการเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมดีขึ้น ประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น และมีเงินเหลือมากพอที่จะมาซื้อทองคำ
นอกจากนั้น ผู้บริโภคยังนำทองรูปพรรณ ทั้งสร้อยแหวนชิ้นเก่า มาเปลี่ยนเป็นทองใหม่ ทำให้ธุรกิจมีการหมุนเวียนมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีหลังจากในช่วงที่ผ่านมา ธุรกิจค้าทองคำในประเทศถือว่าซบเซาไปมาก และจะเห็นได้ว่าในช่วงหลัง ๆ มีความคึกคักเพิ่มมากขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ถือว่าเห็นการเติบโตค่อนข้างชัดเจน
ขอขอบคุณ บจ.ห้างขายทอง จินฮั้วเฮง
Comments are closed.