Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

ปธ.เฟด จี้สภาคองเกรสผ่านมาตรการกระตุ้นศก. ก่อนสหรัฐจะเกิดวิกฤต

- Advertisement -

263

- Advertisement -

เมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้มีการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ภายหลังการประชุม เจอโรม เอช พาวเวล ประธานเฟด ได้กล่าวว่าในเวลานี้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับความช่วยเหลือผ่านนโยบายการคลังของรัฐบาล ชาวอเมริกันหลายล้านคนมีแนวโน้มที่จะไม่ได้รับสวัสดิการว่างงานตามมาตรการเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากมาตรการช่วยใกล้จะหมดอายุลง

ประธานเฟดกล่าวเพิ่มเติมว่า การสนับสนุนด้านการคลังจะช่วยให้สหรัฐสามารถรอดพ้นวิกฤตได้ในช่วง 4-6 สัปดาห์ข้างหน้า โดยหวังว่า สภาคองเกรสจะบรรลุข้อตกลงกันได้ในที่สุด ขณะเดียวกันก็ยังหวังว่าประชาชนจำนวนมากจะได้รับการฉีดวัคซีนภายในสิ้นไตรมาส 2 ของปี 2564

ทั้งนี้สมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐอยู่ระหว่างเจรจาเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล (ชัตดาวน์) หากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลง ก็จะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลเผชิญภาวะชัตดาวน์ในวันที่ 19 ธ.ค. และชาวอเมริกันที่ตกงานจะไม่ได้รับเงินชดเชยจากสวัสดิการว่างงานในวันที่ 26 ธ.ค.

มาดูรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดเมื่อวานนี้ ที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% พร้อมระบุว่า เฟดจะยังคงใช้เครื่องมือทุกอย่างในการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเพื่อให้มีการจ้างงานเต็มศักยภาพ และเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นเหนือระดับเป้าหมาย 2%

- Advertisement -

นอกจากนี้เฟดจะยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงินรวม 1.2 แสนล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 8 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยจะดำเนินการไปจนกระทั่งบรรลุเป้าหมายในการจ้างงานเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพของราคา

ทั้งนี้เฟดจะพยายามหาแนวทางที่จะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และหนุนอัตราเงินเฟ้อให้เคลื่อนไหวที่ระดับ 2% เป็นระยะเวลาที่นานขึ้น และจะปล่อยให้อัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 2% ในบางช่วงเวลา เพื่อให้อัตราเฉลี่ยของเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 2% และให้ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาวอยู่ที่ระดับ 2% โดยจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว

นอกจากนั้นในรายงานยังระบุว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อมนุษย์ และฉุดเศรษฐกิจของสหรัฐและทั่วโลกทรุดตัวลงอย่างรุนแรง กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงานยังคงฟื้นตัว แต่ก็ยังคงต่ำกว่าระดับในช่วงต้นปีนี้

สำหรับทิศทางเศรษฐกิจในวันข้างหน้า  จะขึ้นอยู่กับแนวโน้มการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยวิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุขที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ มีแนวโน้มที่จะฉุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และเงินเฟ้อ ให้ทรุดตัวลงอย่างหนักในระยะเวลาอันใกล้นี้ และก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกลางอย่างมีนัยสำคัญ

- Advertisement -

CR: อินโฟเควสท์

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More