บิตคอยน์ อาการน่าเป็นห่วง หลัง BlockFi ยื่นขอล้มละลายอีก
วานนี้ราคาบิตคอยน์ร่วงลง 2.8% เกือบหลุด $16,000 ก่อนจะวกกลับมาปิดตลาดที่ $16,210 หลัง BlockFi ประกาศล้มละลาย
โดย BlockFi ที่มีมูลค่าตลาด 4.8 พันล้านดอลลาร์ ได้ยื่นเรื่องต่อศาลแขวงในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ของสหรัฐฯ เพื่อขอรับการพิทักษ์ทรัพย์จากภาวะล้มละลาย
อย่างไรก็ดี ในช่วงเช้าวันนี้ (29 พ.ย.) ราคาบิตคอยน์ได้รีบาวด์มาเคลื่อนไหวแถว ๆ 16,500 ดอลลาร์
ด้าน นาย มาร์ค โมเบียส ผู้ก่อตั้งบริษัทโมเบียส แคปิตัล พาร์ทเนอร์ส กล่าวว่า
บิตคอยน์ยังคงมีแนวโน้มลดลงต่อไป โดยอาจแตะระดับ 10,000 ดอลลาร์ พร้อมระบุว่า จะไม่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากมีความเสี่ยงมากเกินไป แต่ยังคงมีนักลงทุนบางส่วนที่มีความเชื่อในคริปโทฯ และจะยังคงเห็นนักลงทุนพวกนี้ต่อไป
ขณะที่ เว็บไซต์ อินโฟ เควสท์ ได้นำเสนอบทความ เรื่อง Crypto Exchange ล่มสลาย ทำไมต้องเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย ไว้น่าสนใจทีเดียว
โดยระบุว่า การล่มสลายของ FTX ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นอันดับสองของโลก ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นที่มีต่อตลาด Cryptocurrency ในภาพรวมอย่างรุนแรง ส่งผลให้ตลาด Cryptocurrency ทั่วโลกสั่นคลอนไปตาม ๆ กัน
ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่แพลตฟอร์มต่าง ๆ ประสบปัญหาด้านการขาดสภาพคล่องและเม็ดเงินลงทุน ไม่ว่าจะเป็นบริษัท Celsius Network และ Voyager Digital และ ล่าสุดคือ BlockFi ซึ่งต่างก็ได้ยื่นขอล้มละลายภายใต้ Chapter 11 ต่อศาลล้มละลายประเทศสหรัฐอเมริกา จนนำมาสู่คำถามที่ว่าทำไมต้องมีการยื่นล้มละลาย
กระบวนการล้มละลายจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อใคร และ อย่างไร
ในกรณีของ FTX ที่ได้ยื่นล้มละลาย มีบริษัทในเครือประมาณ 130 แห่ง รวมถึง Alameda Research บริษัทซื้อขายคริปโทฯ ของ Bankman-Fried เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการล้มละลายครั้งนี้ด้วยนั้น
ตามแถลงการณ์ของ FTX ชี้แจงว่า Bankman-Fried ได้ลาออกจากตำแหน่ง CEO และได้แต่งตั้งให้นาย John J. Ray III (ทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านกระบวนการล้มละลาย) เข้ามาดำรงตำแหน่งแทน เพื่อดำเนินการต่าง ๆ ภายใต้กระบวนการล้มละลายนี้ โดย Bankman-Fried จะยังคงให้ความช่วยเหลือในการดำเนินการต่าง ๆ
โดยในคำร้องขอล้มละลายได้ระบุว่า FTX มีเจ้าหนี้มากกว่า 100,000 ราย โดยมีทรัพย์สินประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์ถึง 50,000 ล้านดอลลาร์ และมีหนี้สินประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์ถึง 50,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในการประกาศล้มละลายที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา
อ้างอิง : RYT9.com
Comments are closed.