Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 29 ก.ค.65 by YLG

- Advertisement -

2,488

- Advertisement -

คำแนะนำ       เปิดสถานะซื้อ $1,741-1,723

จุดทำกำไร    ขายทำกำไร $1,773

ตัดขาดทุน     ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,723

แนวรับ : 1,741 1,723 1,707  แนวต้าน : 1,773 1,789 1,807

สรุป

- Advertisement -

ราคาทองคำวานนี้ปิดทะยานขึ้น 21.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนหลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 โดยระบุว่า GDP หดตัว 0.9% หลังจากที่หดตัว 1.6% ในไตรมาส 1 ซึ่งการที่ GDP หดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค (technical recession) ขณะที่ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานอยู่ที่ระดับ 256,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 253,000 ราย ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ “ย่ำแย่เกินคาด” ยิ่งกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะ “ชะลอ” การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สะท้อนจาก Fedwatch Tool ของ CME บ่งชี้ความเป็นไปได้ของการปรับขึ้น 75 bps ในการประชุมเดือนกันยายน “ลดลง” เหลือ 26.0% จากระดับ 35.2% หลังประชุมเฟด และระดับ 41.2% ในวันอังคารก่อนประชุมเฟด ขณะที่ความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 bps หรือ 0.5% ในการประชุมเดือนกันยายน “เพิ่มขึ้น” เป็น 74.0% จากระดับ 60.9% หลังประชุมเฟด และระดับ 41.2% ในวันอังคารก่อนประชุมเฟด การคาดการณ์ดังกล่าวกดดันดัชนีดอลลาร์ให้ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ที่ 106.05 ในวันพฤหัสบดี ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 2.65% จากแรงซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการทะยานขึ้นกว่า 1% ของทองคำ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE), รายจ่ายและรายได้ส่วนบุคคล, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากม.มิชิแกน

ข่าวสารประกอบการลงทุน

  • (+) ดอลลาร์อ่อนค่า กังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (28 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) หดตัวลงติดต่อกัน 2 ไตรมาส นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันหลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะลดความแรงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงหลายเดือนข้างหน้า  ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.09% แตะที่ระดับ 106.3490  ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 134.33 เยน จากระดับ 136.48 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9552 ฟรังก์ จากระดับ 0.9593 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2822 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2834 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0178 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0198 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2148 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2166 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.6975 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (+) สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว  กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 256,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 253,000 ราย  นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวสูงกว่า 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
  • (+) สหรัฐเผย GDP หดตัว 0.9% ใน Q2/65  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 ในวันนี้ โดยระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 0.9% หลังจากเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า GDP หดตัว 1.6% ในไตรมาส 1  การที่เศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย “ทางเทคนิค” โดยเข้าเกณฑ์นิยามของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
  • (+) รัสเซียยึดโรงไฟฟ้าอันดับ 2 ของยูเครน  รัฐบาลยูเครนเปิดเผยว่า กองกำลังรัสเซียได้เข้ายึดโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่อันดับสองของประเทศแล้ว และกำลังเดินหน้าส่งกำลังครั้งใหญ่เพื่อหวังยึดครองพื้นที่ใน 3 เขตปกครองทางภาคใต้ด้วย  โอเลกซีย์ อาเรสโตวิช ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ยืนยันว่า รัสเซียสามารถยึดโรงไฟฟ้า วูห์เลเฮิร์สก ในเขตปกครองดอแนตสก์ได้สำเร็จแล้ว แต่ชี้ว่า กรณีดังกล่าวถือเป็น “ความได้เปรียบทางกลยุทธ์เพียงเล็กน้อย” ของฝั่งรัสเซีย
  • (-) ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 332.04 จุด รับคาดการณ์เฟดไม่เร่งขึ้นดบ.หลังจีดีพีหดตัว  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี (28 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังมีรายงานว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐหดตัวลงติดต่อกัน 2 ไตรมาส ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,529.63 จุด พุ่งขึ้น 332.04 จุด หรือ +1.03%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,072.43 จุด เพิ่มขึ้น 48.82 จุด หรือ +1.21% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,162.59 จุด เพิ่มขึ้น 130.17 จุด หรือ +1.08%
  • (-) บิตคอยน์พุ่งจ่อแตะ $24,000 เก็งเฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยแรง  บิตคอยน์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดใกล้แตะระดับ 24,000 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรง หลังสหรัฐเปิดเผยเศรษฐกิจหดตัวในวันนี้  ณ เวลา 23.24 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์พุ่งขึ้น 4.93% สู่ระดับ 23,882.12 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase
  • (+/-) ทำเนียบขาวเผย “ไบเดน” ต่อสายตรง “สี จิ้นผิง” วันนี้  ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในวันนี้ ซึ่งเป็นการหารือเป็นครั้งที่ 5 ระหว่างผู้นำทั้งสอง  การสนทนาดังกล่าวมีขึ้น ณ เวลา 19.33 น.ตามเวลาไทย โดยเจ้าหน้าที่กล่าวว่า ผู้นำสหรัฐและจีนได้หารือกันในหลายประเด็น ได้แก่ ความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน, การแผ่อิทธิพลของจีนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน  การเจรจาครั้งล่าสุดระหว่างปธน.ไบเดนและปธน.สี จิ้นผิงมีขึ้นในเดือนมี.ค. ซึ่งปธน.ไบเดนเตือนว่าจีนจะเผชิญกับผลลัพธ์ที่ตามมา หากจีนให้การสนับสนุนรัสเซียในการทำสงครามกับยูเครน  เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระบุว่า สหรัฐต้องการรักษาช่องทางการสื่อสารกับจีน ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างสหรัฐและจีนในด้านการทหาร เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี

ขอขอบคุณ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More