- Advertisement -

คำแนะนำ :

หากราคาทองคำไม่สามารถผ่าน 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ เปิดสถานะขาย แต่หากทะลุขึ้นไป อาจต้องชะลอการเปิดสถานะขายออกไปที่แนวต้านสำคัญ  1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไป

แนวรับ : 1,737 1,717 1,698  แนวต้าน : 1,767 1,782 1,808

สรุป  

ราคาทองคำวานนี้ปิดทรงตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลง  โดยราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากการทะยานขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ที่ดีดตัวเหนือระดับ 1.5% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. หลังจากที่หลังธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญาณจะเริ่มลด QE ในไม่ช้าซึ่งอาจนำไปสู่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วสุดในปีหน้า  ปัจจัยดังกล่าวนอกจากจะส่งผลกดดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยแล้ว  ยังช่วยหนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่าจนกดดันราคาทองคำเพิ่ม  นอกจากนี้  ดัชนีดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาดอีกด้วย  นั่นทำให้ราคาทองคำร่วงจากระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 1,760.83 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ  1,744.83  ดอลลาร์ต่อออนซ์  อย่างไรก็ดี  ยังคงมีแรงซื้อเก็งกำไรสลับเข้ามาเป็นระยะ  ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีลดช่วงบวกลงในช่วงปลายตลาด  โดยได้รับแรงกดดันจากความเห็นในเชิง Dovish ของนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดชิคาโก ที่กล่าวว่า  แม้เศรษฐกิจสหรัฐจะบรรลุเกณฑ์สำหรับการเริ่มลด QE ในเร็วๆนี้ แต่อาจต้องใช้เวลาอีก 2 ปี(2023)ก่อนที่อัตราเงินเฟ้อจะแข็งแกร่งพอที่เฟดสมควรจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย  สถานการณ์ดังกล่าวช่วยพยุงให้ราคาสามารถทรงตัวรักษาระกับไว้ได้  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -3.20 ตัน  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB, ดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์  พร้อมจับตา นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด และนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ มีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา

- Advertisement -

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

• (+) เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธลงสู่ทะเลญี่ปุ่นเช้านี้  คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ (JCS) เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธลงสู่ทะเลญี่ปุ่นในช่วงเช้าวันนี้  การยิงขีปนาวุธในวันนี้นับเป็นการยิงครั้งที่ 2 ในเดือนนี้ หลังจากเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธลงสู่ทะเลนอกชายฝั่งตะวันออก ซึ่งเชื่อว่าตกลงในพื้นที่ด้านนอกเขตเศรษฐกิจพิเศษของญี่ปุ่น
• (+) ประธานเฟดชิคาโกคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยปลายปี 2566  นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะบรรลุเกณฑ์ของเฟดในไม่ช้าเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)  อย่างไรก็ดี นายอีแวนส์กล่าวว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปี 2566  นายอีแวนส์คาดการณ์ว่า จะต้องใช้เวลาอีก 2 ปีก่อนที่เงินเฟ้อจะแข็งแกร่งเพียงพอที่จะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
• (-) ดอลล์แข็งรับบอนด์ยีลด์พุ่ง จับตา”พาวเวล-เยลเลน” แถลงคองเกรส  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสในวันนี้  ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.06% แตะที่ 93.3812 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.01 เยน จากระดับ 110.78 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9259 ฟรังก์ จากระดับ 0.9250 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2622 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2660 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1698 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1716 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3708 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3660 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7286 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7256 ดอลลาร์สหรัฐ
• (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 71.37 จุด รับความหวังเศรษฐกิจฟื้นตัว  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ หลังมีรายงานว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในสหรัฐชะลอตัวลง และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนส.ค. อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนลบเนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐได้ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,869.37 จุด เพิ่มขึ้น 71.37 จุด หรือ +0.21% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,443.11 จุด ลดลง 12.37 จุด หรือ -0.28% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,969.97 จุด ลดลง 77.73 จุด หรือ -0.52%
• (-) สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพุ่งเกินคาดในเดือนส.ค.  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 1.8% ในเดือนส.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค.  นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนส.ค.
• (-) “ไฟเซอร์” ทดลองยาเม็ดโควิดในอาสาสมัครที่มีโอกาสสัมผัสผู้ติดเชื้อ  บริษัทไฟเซอร์ อิงค์เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้เริ่มทำการทดลองยา PF-07321332 ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสโควิด-19 ในรูปของยาเม็ด ในกลุ่มอาสาสมัครที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วยโควิด  ทั้งนี้ ไฟเซอร์ได้ทำการทดลองยาดังกล่าวในโครงการทดลองระยะที่ 2 และ 3 กับอาสาสมัครจำนวน 2,660 ราย ซึ่งเป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง และมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันกับผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งมีอาการเจ็บป่วย  อาสาสมัครดังกล่าวจะได้รับยา PF-07321332 พร้อมกับยา Ritonavir ซึ่งเป็นยาที่ใช้รักษาผู้ที่ติดเชื้อ HIV  ก่อนหน้านี้ ไฟเซอร์ระบุว่า ทางบริษัทกำลังทดลองยา PF-07321332 ในผู้ป่วยโควิดที่แสดงอาการ แต่ไม่ได้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล  หากการทดลองประสบผลสำเร็จ ไฟเซอร์จะยื่นขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในไตรมาส 4 สำหรับการใช้ยา PF-07321332 ในกรณีฉุกเฉิน
• (+/-) “พาวเวล-เยลเลน” แถลงคองเกรสวันนี้ แจงใช้นโยบายการเงิน-การคลังกู้วิกฤตโควิด  นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ มีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ โดยทั้งสองจะแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และความสำคัญของการใช้นโยบายการเงินและการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  นอกจากนี้ คาดว่าคณะกรรมาธิการดังกล่าวจะทำการซักถามนายพาวเวลและนางเยลเลนเกี่ยวกับเงินเฟ้อในสหรัฐ รวมทั้งร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ และประเด็นเพดานหนี้ของสหรัฐ

ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -