Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ส.ค.64 by YLG

- Advertisement -

203

- Advertisement -

คำแนะนำ :

เปิดสถานะขายทำกำไรหากราคาไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,802-1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เข้าซื้อคืนหากราคาปรับลงไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,780-1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนควรปรับลดการถือสถานะลงเพื่อลดความเสี่ยงจากผลการประชุมแจ็กสัน โฮล

แนวรับ : 1,780 1,768 1,751  แนวต้าน : 1,810 1,833 1,849

สรุป  

ราคาทองคำวานนี้ปิดทรงตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลง  โดยราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นก่อนในช่วงต้นโดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมา “แย่เกินคาด” ทั้งตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่เพิ่มขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 353,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว  และประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับ GDP ประจำไตรมาส 2/2020 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 6.6% ในไตรมาส 2 แม้จะสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 6.5% แต่ก็ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะขยายตัว 6.7%  อย่างไรก็ดี  ราคาตอบรับเชิงบวกได้แค่ในช่วงสั้น  ก่อนที่จะทิ้งตัวลงแรงโดยได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงเชิง Hawkish ของเจ้าหน้าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ถึง 3 ราย ได้แก่   ประธานเฟดแคนซัส ซิตี้ที่กล่าวว่า เฟดควรเริ่มปรับลดวงเงิน QE “โดยเร็วดีกว่าดำเนินการล่าช้า” ขณะที่ประธานเฟดเซนต์หลุยส์เรียกร้องให้เฟดเริ่มลด QE รายเดือนโดยเร็ว และยุติโครงการดังกล่าวภายในสิ้นไตรมาสที่ 1 ของปี 2022 ส่วนประธานเฟดดัลลัสย้ำว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในเส้นทางที่ทำให้เฟดอาจจะเริ่มลด QE ในเดือนต.ค.หรือหลังจากนั้นไม่นาน พร้อมมองข้ามผลกระทบของ COVID-19 สายพันธุ์เดลต้า  ปัจจัยดังกล่าวหนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่าจนกดดันให้ราคาทองคำดิ่งลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ  1,780.11 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ก่อนที่ราคาจะพุ่งขึ้นอีกครั้งจากแรงซื้อ Buy the Dip ประกอบกับเกิดเหตุระเบิด 2 ครั้งด้านนอกท่าอากาศยานฮามิด คาร์ไซในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถานส่งผลให้ชาวอเมริกันและพลเรือนจำนวนหนึ่งเสียชีวิตจึงส่งผลกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย  ทำให้ทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,798.11 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ด้านกองทุน SPDR ถือทองไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผย Core PCE, รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลของสหรัฐ  พร้อมจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวเปิดงานในประเด็น “แนวโน้มเศรษฐกิจ”คืนนี้เวลา 21.00 น.

- Advertisement -

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) สหรัฐเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้วกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ353,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับ 349,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้  นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 350,000 ราย
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2564 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 6.6% ในไตรมาส 2 โดยสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 6.5% หลังจากที่ขยายตัว 6.3% ในไตรมาส 1
  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่สนามบินกรุงคาบูลของอัฟกานิสถาน ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากเจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดเร่งปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,213.12 จุด ลดลง 192.38 จุด หรือ -0.54% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,470.00 จุด ลดลง 26.19 จุด หรือ -0.58% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,945.81 จุด ลดลง 96.05 จุด หรือ -0.64%
  • Politicoซึ่งเป็นสื่อสหรัฐที่เน้นข่าวการเมือง รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่า มือระเบิดฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มรัฐอิสลาม (ISIS) ได้ก่อเหตุระเบิดที่สนามบินคาบูล จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย และบาดเจ็บหลายราย
  • กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ เพนตากอน เปิดเผยว่า เกิดระเบิดสองครั้งด้านนอกสนามบินระหว่างประเทศในกรุงคาบูลในวันพฤหัสบดี และมีเจ้าหน้าที่อเมริกันเสียชีวิตหลายคน  พลเอกแฟรงค์ แมคเคนซี ผู้บัญชาการกองบัญชาการภูมิภาคเอเชียกลางและตะวันออกกลาง แถลงข่าวที่เพนตากอนในวันพฤหัสบดี ระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารอเมริกันเสียชีวิต 12 คน เป็นนาวิกโยธิน 11 คน และแพทย์ของกองทัพเรืออีกหนึ่งคน รวมทั้งมีทหารอเมริกันบาดเจ็บอีก 15 คน และมีการยิงต่อสู้หลังเกิดเหตุระเบิด  ทางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และอัฟกานิสถาน รายงานว่า มีชาวอัฟกันเสียชีวิตอย่างน้อย 60 คน และบาดเจ็บอย่างน้อย 143 คน ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี  ด้านโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จอห์น เคอร์บี ระบุว่า เหตุระเบิดครั้งแรกเกิดขึ้นบริเวณประตูแอบบีย์ ของสนามบินกรุงคาบูล “ซึ่งเป็นผลจากการโจมตีที่ซับซ้อนที่ทำให้มีเจ้าหน้าที่อเมริกันและประชาชนได้รับบาดเจ็บ” ส่วนระเบิดครั้งที่สองเกิดขึ้นบริเวณโรงแรมบารอน ไม่ไกลจากประตูที่เกิดระเบิดจุดแรก
  • นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแคนซัส ซิตี้ กล่าวว่า เฟดควรเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยเร็ว ซึ่งจะดีกว่าที่จะปล่อยให้ล่าช้าออกไป เนื่องจากมีการคาดการณ์กันว่าเศรษฐกิจสหรัฐและตลาดแรงงานจะยังคงมีการขยายตัวต่อไป
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ส.ค.) หลังจากเจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดเร่งปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.25% แตะที่ 93.0530 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.02 เยน จากระดับ 109.97 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9181 ฟรังก์ จากระดับ 0.9135 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2684 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2598 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1753 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1771 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3695 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3761 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7238 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7279 ดอลลาร์
  • GfKซึ่งเป็นสถาบันวิจัยตลาดของเยอรมนี เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีคาดการณ์ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเยอรมนีสำหรับเดือนก.ย.ลดลงสู่ระดับ -1.2 โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -0.7 จากระดับ -0.4 ในเดือนส.ค.

ขอขอบคุณ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More