Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 14 ต.ค.65 by YLG

- Advertisement -

1,095

- Advertisement -

คำแนะนำ       เปิดสถานะขาย $1,683-1,688

จุดทำกำไร    ซื้อคืนเพื่อทำกำไร $1,657-1,647

ตัดขาดทุน     ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,688

แนวรับ : 1,647 1,631 1,614  แนวต้าน : 1,688 1,711 1,735

สรุป

- Advertisement -

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 7.72 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ในระหว่างวันราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ ก่อนจะปรับตัวลดลงแรงในทันทีที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 8.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1% เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 6.6% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี

โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.5% เช่นกัน ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อในสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง จึงกระตุ้นการคาดการณ์การเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สะท้อนจากFed funds futures ที่ปรับตัวรับโอกาส 96.3% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps ในเดือนพ.ย.และมีความน่าจะเป็น 3.7% ที่จะขึ้นดอกเบี้ย 100 bps ในเดือนพ.ย. นั่นทำให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีที่ระดับ 4.077% จนเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำดิ่งลงทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 1,642.48 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อมา โดยกลับมาได้รับแรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์ที่ร่วงลงท่ามกลางแรงขายทำกำไร ประกอบกับเงินปอนด์พุ่งขึ้นมากถึง 1.8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากสกาย นิวส์รายงานว่า รัฐบาลอังกฤษกำลังพิจารณาที่จะยกเลิกมาตรการปรับลดภาษีบางส่วน ปัจจัยดังกล่าวช่วยพยุงราคาทองคำเอาไว้

ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -1.16 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดค้าปลีก, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากม.มิชิแกน และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด

ข่าวสารประกอบการลงทุน

- Advertisement -

  • (+) สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 9,000 ราย สู่ระดับ 228,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ราย
  • (+) น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง 1.84 ดอลลาร์ หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันกลั่นลด สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี (13 ต.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันทำการ หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 3 วัน โดยตลาดได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ปริมาณน้ำมันฮีตติ้งออยล์ที่ตึงตัวในช่วงฤดูหนาว ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 1.84 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 89.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 2.12 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 94.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • (+) ดอลล์อ่อนค่าเทียบยูโร-ปอนด์ หลังการซื้อขายผันผวน ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (13 ต.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากพุ่งขึ้นในการซื้อขายช่วงเช้าซึ่งได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่สูงเกินคาด ขณะที่นักลงทุนบางรายมองว่าดอลลาร์พุ่งขึ้นรับข้อมูลดังกล่าวมากเกินไปในช่วงแรก ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.84% แตะที่ระดับ 112.3640 ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9791 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9699 ดอลลาร์, เงินปอนด์แข็งค่าสู่ระดับ 1.1321 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1092 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าแตะที่ระดับ 0.6304 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6275 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 147.17 เยน จากระดับ 146.88 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9989 ฟรังก์ จากระดับ 0.9982 ฟรังก์ แต่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3734 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3824 ดอลลาร์แคนาดา
  • (+) รัสเซียเดินหน้าโจมตีทางอากาศต่อยูเครนต่อเนื่อง  เจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า กองทัพรัสเซียส่งโดรนที่ผลิตในอิหร่านเข้ามาโจมตีกรุงเคียฟ พร้อม ๆ กับยิงขีปนาวุธเข้ามาตามจุดต่าง ๆ ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง  ไคไรโล ไทโมเชนโก รองผู้อำนวยการทำเนียบประธานาธิบดียูเครน กล่าวว่า โดรนที่รัสเซียส่งเข้ามาเมืองหลวงของประเทศนั้นโจมตี “พื้นที่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ” ของเมืองเป็นหลัก  เจ้าหน้าที่กรุงเคียฟให้รายละเอียดว่า โดรนที่รู้จักกันในชื่อ คามิคาเซ่ เป็นเหมือนเครื่องบินที่มีระเบิดติดมาด้วย และทำงานโดยการพุ่งเข้าชนเป้าหมายที่ผู้ส่งมาสั่งการ  ขณะเดียวกัน โอเล็กซานเดอร์ เซียนโควิช นายกเทศมนตรีเมืองมิโคลาอิฟ รายงานในช่วงค่ำของวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า การยิงถล่มเมืองแห่งนี้ส่งผลให้อาคารอพาร์ทเมนท์สูง 5 ชั้นแห่งหนึ่งในเมืองถล่มเสียหายด้วย  การโจมตีทางอากาศโดยกองทัพรัสเซียเดินหน้าต่อไป ขณะที่ หลายประเทศที่เป็นหุ้นส่วนกับยูเครนกำลังเร่งส่งสรรพาวุธด้านการต่อต้านการโจมตีทางอากาศยานไปให้กรุงเคียฟอยู่
  • (-) สหรัฐเผยดัชนี CPI +8.2% ในเดือนก.ย. สูงกว่าคาดการณ์ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 8.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1% เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% ขณะเดียวกัน ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 6.6% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.5% เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง
  • (-) ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 827.87 จุด รีบาวด์ทางเทคนิค-แรงซื้อคืนหนุนตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 800 จุดในวันพฤหัสบดี (13 ต.ค.) โดยปัจจัยหนุนทางเทคนิคและการเข้าซื้อคืนหุ้นได้ช่วยให้ตลาดดีดตัวขึ้นอย่างมากหลังจากร่วงลงอย่างหนักในการซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,038.72 จุด เพิ่มขึ้น 827.87 จุด หรือ +2.83%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,669.91 จุด เพิ่มขึ้น 92.88 จุด หรือ +2.60% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,649.15 จุด เพิ่มขึ้น 232.05 จุด หรือ +2.23%

ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More