Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 12 มี.ค.64 (YLG)

- Advertisement -

302

- Advertisement -

คำแนะนำ :

หากราคาไม่หลุด 1,719-1,713 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รอเสี่ยงเปิดสถานะซื้อในบริเวณดังกล่าว(ตัดขาดทุนหากหลุด 1,713ดอลลาร์ต่อออนซ์)  เน้นการลงทุนระยะสั้นและควรพิจารณาถึงความเสี่ยง เนื่องจากราคาทองคำแกว่งตัวผันผวน

แนวรับ : 1,713 1,700 1,687 แนวต้าน : 1,714 1,759 1,776

สรุป

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 4.32 ดอลลาร์ต่อออนซ์  แม้ระหว่างวัน  การอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีหลังนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อจะหนุนให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะ 1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์  อย่างไรก็ดี  ราคาทองลดช่วงบวกลงจากแรงขายทำกำไร  ก่อนที่จะปรับตัวลงแรงหลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด  ทั้งตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงเกินคาดสู่ระดับ 712,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว  รวมถึงผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ที่พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.9 ล้านตำแหน่งในเดือนม.ค.  ทั้งนี้  การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด  รวมไปถึงข่าวที่ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ ได้ลงนามในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดที่ 1.474% ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินก็มีการฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดบริเวณ  91.365 เช่นกัน  ส่งผลกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวันลงมาปิดตลาดในแดนลบ  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลดลงอีก -4.96 ตันสู่ระดับ 1,055.27 ตัน ทำให้ในปี 2021 กองทุน SPDR ถือครองทองลดลงแล้วถึง -115.47 ตัน  สะท้อนกระแสเงินทุนที่ยังคงไหลออกจากกองทุน ETF ทองคำต่อเนื่อง  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ  อาทิ  ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และคาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภค จาก UoM

- Advertisement -

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ด่วน! เดนมาร์กระงับฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ หลังมีรายงานทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตัน  กระทรวงสาธารณสุขเดนมาร์กประกาศระงับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเป็นการชั่วคราว หลังมีรายงานกรณีการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในผู้ที่ได้รับวัคซีนบางราย  นอกจากนี้ ทางการออสเตรียก็ได้ประกาศระงับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเช่นกัน หลังมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากอาการแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ และบางคนมีอาการลิ่มเลือดอุดตันในปอดหลังได้รับวัคซีน
  • (+) ดอลล์อ่อน นักลงทุนหันซื้อสินทรัพย์เสี่ยงหลังคลายวิตกเงินเฟ้อ  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนหันไปซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังคลายวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ นอกจากนี้ การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 1.5% ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงด้วย  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.41% สู่ระดับ 91.4316 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9245 ฟรังก์ จากระดับ 0.9294 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2537 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2622 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 108.47 เยน จากระดับ 108.36 เยน  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1980 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1922 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3987 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3932 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7787 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7738 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 188.57 จุด รับไบเดนลงนามกระตุ้นศก.-ข้อมูลแรงงานสดใส  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) ขานรับข่าวประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐลงนามในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2563  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,485.59 จุด เพิ่มขึ้น 188.57 จุด หรือ +0.58% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,939.34 จุด เพิ่มขึ้น 40.53 จุด หรือ +1.04% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,398.67 จุด เพิ่มขึ้น 329.84 จุด หรือ +2.52%
  • (-) สหรัฐเผยตัวเลขเปิดรับสมัครงานเพิ่มสู่ระดับ 6.9 ล้านตำแหน่งในม.ค.  สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.9 ล้านตำแหน่งในเดือนม.ค. จาก 6.8 ล้านตำแหน่งในเดือนธ.ค.
  • (-) สหรัฐเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว  กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 712,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 725,000 ราย
  • (+/-) “ไบเดน” ลงนามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว เตรียมแถลงข่าว 08.00 น.วันนี้  ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ ได้ลงนามในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์แล้วเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ (11 มี.ค.) หลังจากร่างกฎหมายได้ผ่านความเห็นชอบจากทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  ร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับนี้มีชื่อว่า “American Rescue Plan Act of 2021” ซึ่งครอบคลุมถึงการจัดสรรงบประมาณ 4 แสนล้านดอลลาร์เพื่อแจกจ่ายให้กับชาวอเมริกันโดยตรงคนละ 1,400 ดอลลาร์, ให้เงินช่วยเหลือรัฐต่างๆ และรัฐบาลกลางในวงเงิน 3.50 แสนล้านดอลลาร์, จัดสรรเงินทุนเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และขยายเวลาของโครงการช่วยเหลือคนตกงานสัปดาห์ละ 300 ดอลลาร์ออกไปจนถึงเดือนก.ย.ปีนี้
  • (+/-) ECB มีมติคงดอกเบี้ย ส่งสัญญาณเพิ่มวงเงิน QE ใน Q2/64  ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ ขณะที่ ECB ยังคงจับตาเศรษฐกิจในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ทั้งนี้ ที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%  นอกจากนี้ ECB มีมติคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ที่ระดับ 1.85 ล้านล้านยูโร โดยจะซื้อพันธบัตรตามโครงการดังกล่าวจนถึงเดือนมี.ค.2565  อย่างไรก็ดี ECB ระบุว่า ECB จะเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรในไตรมาส 2 เพื่อทำให้อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่เศรษฐกิจยูโรโซนยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ขอขอบคุ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More