- Advertisement -

เน้นการลงทุนระยะสั้นและไม่ควรถือสถานะข้ามวัน หากราคาไม่ผ่านแนวต้าน 1,899-1,912  ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเห็นการอ่อนตัวลงระยะสั้น โดยรอเสี่ยงเปิดสถานะซื้อในบริเวณ 1,881-1,864 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,881 1,864 1,849  แนวต้าน : 1,899 1,912 1,921

สรุป

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น  1.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนในระหว่างวัน  โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นก่อนในตลาดเอเชียจนแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 1,899.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อCOVID -19 ที่พุ่งขึ้นในสหรัฐ  ก่อนที่ราคาทองคำจะดิ่งลงในทันทีที่บริษัท Moderna Inc ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ เปิดเผยว่า ผลการทดลองวัคซีนต้าน COVID-19  ในเฟสที่ 3 พบว่าวัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ COVID-19  มากถึง 94.5%  ข่าวดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยง  จนหนุนให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 470.63 จุด หรือ +1.60% พร้อมกับกดดันให้สินทรัพย์ปลอดภัยรวมถึงทองคำเผชิญกับแรงขายอย่างหนัก  จนส่งผลให้ราคาทองคำร่วงแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,863.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์  อย่างไรก็ดี  แรงซื้อ Buy the dip ช่วยพยุงราคาทองคำเอาไว้   ประกอบกับสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ของสหรัฐที่ลดลงสู่ระดับ 6.3 ในเดือนพ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 13.8 จึงเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นมาปิดตลาดในแดนบวกได้สำเร็จ  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิตจสหรัฐ  อาทิ  ยอดค้าปลีก, อัตราการใช้กำลังผลิต, การผลิตภาคอุตสาหกรรม, ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ย. โดย NAHB

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

- Advertisement -

• (+) ดอลล์อ่อน นักลงทุนขายสกุลเงินปลอดภัยหลังวัคซีนโควิดคืบหน้า  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) เนื่องจากข่าวความคืบหน้าในพัฒนาวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ทำให้นักลงทุนเทขายสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และเข้าซื้อสกุลเงินซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยงและให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่น ยูโร และเงินปอนด์  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.13% แตะที่ 92.6362 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 104.58 เยน จากระดับ 104.63 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9126 ฟรังก์ จากระดับ 0.9134 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3096 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3136 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1844 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1831 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3189 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3175 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7313 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7263 ดอลลาร์สหรัฐ
• (-) ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 470.63 จุด ทำนิวไฮ ขานรับวัคซีนคืบหน้า  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) ขานรับความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มสายการบิน กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มอุตสาหกรรม ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 3%  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,950.44 จุด เพิ่มขึ้น 470.63 จุด หรือ +1.60% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,626.91 จุด เพิ่มขึ้น 41.76 จุด หรือ +1.16% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,924.13 จุด เพิ่มขึ้น 94.84 จุด หรือ +0.80%
• (-) ผู้เชี่ยวชาญชูวัคซีนโมเดอร์นาขนส่งสะดวก เหตุจัดเก็บได้ในอุณหภูมิไม่ต่ำมาก  นายแมทธิว เฮปเบิร์น หัวหน้าโครงการ Operation Warp Speed ซึ่งมีเป้าหมายให้ชาวสหรัฐมีวัคซีนต้านโควิด-19 ใช้ภายในสิ้นปีนี้ กล่าวว่า วัคซีนของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ มีความสะดวกในการจัดส่งไปยังพื้นที่ห่างไกลในชนบท เนื่องจากสามารถจัดเก็บได้ในอุณหภูมิที่ไม่ต่ำมาก  “วัคซีนโมเดอร์นากำลังอยู่ในกระบวนการทดสอบภาวะเสถียร และเราสามารถเชื่อมั่นได้ว่าวัคซีนจะมีค่าเสถียรมากขึ้นเมื่อเสร็จสิ้นการทดสอบในระยะยาว” นายเฮปเบิร์นกล่าว
• (-) อย.สหรัฐรับลูกเตรียมไฟเขียววัคซีนโควิดของ “โมเดอร์นา-ไฟเซอร์”  นายอเล็กซ์ อาซาร์ รมว.สาธารณสุขสหรัฐ กล่าวว่า สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) จะเร่งให้การอนุมัติวัคซีนต้านโควิด-19 ของโมเดอร์นาและไฟเซอร์สำหรับการใช้ในกรณีฉุกเฉิน  นายอาซาร์กล่าวว่า ผลการทดลองวัคซีนที่ “เหลือเชื่อ” ของโมเดอร์นา ร่วมกับผลการทดลองของไฟเซอร์ในสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้วันนี้ถือเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์สำหรับสุขภาพของประชาชน
• (-) ผู้เชี่ยวชาญฟันธงการระบาดของโควิดยุติปีหน้า หลังมีข่าวคืบหน้าพัฒนาวัคซีน  นพ.สก็อตต์ ก็อตต์ลิเอ็บ อดีตประธานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยุติลงในปีหน้า หลังมีรายงานความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์  “หากข้อมูลทั้งหมดยังคงยืนยันผลการทดลองดังกล่าว เราก็จะมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพอย่างมากในการต้านโควิด-19 ถึง 2 ตัว และเมื่อเรามีวัคซีนเหล่านี้อย่างเพียงพอขณะย่างเข้าสู่ปีหน้า เราก็จะฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพอย่างมากให้แก่ประชาชน ทำให้เราสามารถยุติการแพร่ระบาดในปีหน้าด้วยเทคโนโลยีของเรา” นพ.ก็อตต์ลิเอ็บกล่าว
• (-) “โมเดอร์นา”เผยวัคซีนต้านโควิดมีประสิทธิภาพมากกว่า 94%  บริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ แถลงในวันนี้ว่า ผลการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟสที่ 3 พบว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 มากกว่า 94%  ทั้งนี้ โมเดอร์นาได้พัฒนาวัคซีนดังกล่าวร่วมกับสถาบันวิจัยโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐ โดยมีอาสาสมัครจำนวน 30,000 ราย  โมเดอร์นายังระบุว่าวัคซีนของทางบริษัทสามารถจัดเก็บในอุณหภูมิ 36-46 องศาฟาห์เรนไฮต์ ซึ่งเป็นอุณหภูมิในตู้เย็นมาตรฐานที่ใช้ในครัวเรือน และสามารถเก็บรักษาได้นาน 30 วัน  นอกจากนี้ วัคซีนของโมเดอร์นายังสามารถเก็บรักษาได้นานถึง 6 เดือน หากมีการจัดเก็บในอุณหภูมิ -4 องศาฟาห์เรนไฮต์
• (-) BioNTech คาดวัคซีนโควิดช่วยให้ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติช่วงฤดูหนาวปีหน้า  ศาสตราจารย์อูกูร์ ซาฮิน ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี กล่าวว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จะช่วยให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันตามปกติภายในช่วงฤดูหนาวของปีหน้า  นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ซาฮินยังระบุว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จะสามารถลดการแพร่ระบาดลงได้ถึง 50% ซึ่งจะส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดต่ำลงอย่างมาก

ขอขอบคุณ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -