Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 23 ต.ค.63 (YLG)

- Advertisement -

425

- Advertisement -

หากระหว่างวันราคาทองคำไม่ทะลุแนวต้าน 1,922-1,926 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคาอาจแกว่งตัวออกด้านข้างและอาจจะเห็นการอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,894  ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,894 1,881 1,872  แนวต้าน : 1,926 1,934 1,943

สรุป

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 18.70  ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์   หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ต่างออกมาดีเกินคาด  อาทิ  ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้วที่ลดลงสู่ระดับ 787,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. ที่เป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของCOVID-19 และ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 875,000 ราย ส่วนยอดขายบ้านมือสองดีดตัวขึ้นเกินคาดถึง 9.5% ในเดือนก.ย. เช่นกัน  นอกจากนี้นักลงทุนยังกลับเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกว่าสภาคองเกรสสหรัฐจะไม่สามารถออกกฎหมายว่าด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย. ขณะที่ล่าสุด  นายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาว  ออกมาเตือนว่า ยังคงมีความเห็นแตกต่างด้านนโยบายที่สำคัญ ซึ่งทำให้ไม่มีแนวโน้มที่ทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ก่อนวันเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย.  แม้ว่านางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่อาจจะได้รับการอนุมัติเร็วๆ นี้ก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวหนุนให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น +0.37% จนเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำให้ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,894 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลด -3.80 ตันสู่ระดับ 1,265.55 ตัน  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคการบริการจากมาร์กิต

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

- Advertisement -

  • (+) Conference Board เผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจบวก 0.7% ในเดือนก.ย.  Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวขึ้น 0.7% ในเดือนก.ย. หลังจากดีดตัวขึ้น 1.4% ในเดือนส.ค.และ 2.0% ในเดือนก.ค.
  • (+) “เพโลซี”เผยการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกำลังคืบหน้า  นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวในวันนี้ว่า การเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตและทำเนียบขาวเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ กำลังมีความคืบหน้า และคาดว่าสภาคองเกรสจะสามารถออกกฎหมายเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในไม่ช้า  “เรากำลังมีความคืบหน้า และใกล้บรรลุข้อตกลง” นางเพโลซีกล่าว  นางเพโลซีระบุว่า ทั้งสองฝ่ายสามารถลดความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการสนับสนุนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการให้ความช่วยเหลือมลรัฐต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด
  • (-) ดอลล์แข็งค่า ขานรับสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจดีขึ้น  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้น  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.37% สู่ระดับ 92.9520  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 104.87 เยน จากระดับ 104.53 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9072 ฟรังก์ จากระดับ 0.9046 ฟรังก์ และดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3142 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3130 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1817 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1860 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3077 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3157 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7112 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7126 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (-) สหรัฐเผยยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 9.5% ในเดือนก.ย.  สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองดีดตัวขึ้น 9.5% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 2.4% ในเดือนส.ค.  ก่อนหน้านี้ ยอดขายบ้านมือสองพุ่งขึ้น 24.7% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการรวบรวมข้อมูลในปี 2511  เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 20.9% ในเดือนก.ย.
  • (-) สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว  กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 787,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 875,000 ราย หลังจากอยู่ที่ระดับ 842,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
  • (-) สหรัฐไฟเขียวใช้ยา remdesivir รักษาผู้ป่วยโควิดได้โดยทั่วไปแล้ว  สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ได้อนุมัติในวันพฤหัสบดีให้มีการใช้ยาต้านไวรัส Veklury (remdesivir) ของบริษัทกิลเลียด ไซแอนเซส (Gilead Sciences) เพื่อรักษาโรคโควิด-19 ได้โดยทั่วไปแล้ว  กิลเลียดระบุในแถลงการณ์ว่า ก่อนหน้านี้ FDA ได้อนุมัติให้มีการใช้ยาดังกล่าวในการรักษาโรคโควิด-19 ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น และในขณะนี้ ยา Veklury ถือเป็นยาตัวแรกและตัวเดียวที่ FDA อนุมัติให้ใช้รักษาผู้ป่วยโควิดได้ทั่วไปในสหรัฐ ยา Veklury สามารถใช้รักษาผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วสหรัฐ โดยใช้ได้กับผู้ใหญ่และเด็ก (อายุ 12 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักตัวอย่างน้อย 40 กิโลกรัม)  ทั้งนี้ ผลการทดลองทางคลินิกพบว่า ยา Veklury ช่วยให้ผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาลฟื้นตัวเร็วขึ้น 5 วัน
  • (+/-) ดาวโจนส์ปิดบวก 152.84 จุด ตลาดยังหวังมาตรการกระตุ้นศก.  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความหวังเกี่ยวกับแนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นด้านการคลังเพิ่มขึ้นในสหรัฐเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และขานรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,363.66 จุด เพิ่มขึ้น 152.84 จุด หรือ +0.54%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,453.49 จุด เพิ่มขึ้น 17.93 จุด หรือ +0.52% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,506.01 จุด เพิ่มขึ้น 21.31 จุด หรือ +0.19%

ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More