Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 21 ต.ค.63 (YLG)

- Advertisement -

402

- Advertisement -

ราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แม้ว่าจะทรงตัวรักษาระดับไว้แต่หากระหว่างวันหากราคาทองคำไม่ทะลุแนวต้าน 1,918-1,922 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจจะเห็นการอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,896-1,881 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,888 1,872 1,863  แนวต้าน : 1,922 1,934 1,943

สรุป

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนหลักจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์  ท่ามกลางความคาดหวังเชิงบวกว่าสหรัฐอาจสามารถผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังรอบใหม่ได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.นี้  หลังจากวานนี้นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐออกมาระบุว่า  พรรคเดโมแครตและทำเนียบขาว “ใกล้จะบรรลุข้อตกลง”  พร้อมกับส่งสัญญาณว่า “การเจรจาจะยังคงดำเนินต่อไป”  ขณะเดียวกันนางเพโลซี “ไม่ได้” โฟกัสเส้นตายที่เคยระบุไว้  อย่างไรก็ดี  หากต้องการจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้แล้วเสร็จก่อนวันเลือกตั้งนั้น  ต้องมีการบรรลุข้อตกลง และมีการเขียนร่างกฏหมายภายในสัปดาห์นี้  สอดคล้องกับความเห็นของนายมาร์ค มีโดว์ส  หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ที่ออกมาระบุเช่นกันว่า การเจรจาระหว่างนางแนนซี เพโลซี และนายมนูชิน  รัฐมนตรีคลังสหรัฐมี “ความก้าวหน้าที่ดี” ก่อนเสริมว่าทั้ง 2 มีกำหนดจะเจรจากันอีกครั้งในวันพุธตามเวลาสหรัฐ  ซึ่งความคืบหน้าเชิงบวกที่เกิดขึ้นนั่นทอนความต้องการดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย  พร้อมๆกับกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของสกุลเงิน  จนเป็นผลให้ราคาทองคำสามารถทรงตัวเหนือ 1,900 ดอลลาร์ได้อย่างแข็งแกร่ง  พร้อมกับปรับตัวขึ้นต่อในช่วงเช้าวันนี้ในตลาดเอเชีย  ด้านกองทุน SPDR  ถือครองทองลด -2.92 ตัน สำหรับวันนี้ยังคงต้องจับตาความคืบหน้าของการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐอย่างใกล้ชิด  พร้อมกับติดตามการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

- Advertisement -

  • (+) “เพโลซี”เผยเดโมแครต-ทำเนียบขาวใกล้บรรลุข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ  นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า พรรคเดโมแครตและทำเนียบขาวใกล้จะบรรลุข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ก่อนที่ตนจะสนทนาทางโทรศัพท์กับนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ในวันนี้  อย่างไรก็ดี นางเพโลซีไม่ได้ให้ความสำคัญต่อกำหนดเส้นตายที่มีการประกาศก่อนหน้านี้เพื่อให้มีการบรรลุข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจภายในวันนี้ โดยนางเพโลซีส่งสัญญาณว่าการเจรจาจะยังคงดำเนินต่อไป  นางเพโลซีระบุว่า การที่จะให้สภาคองเกรสออกกฎหมายว่าด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เสร็จก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย. สมาชิกสภาคองเกรสจะต้องมีการบรรลุข้อตกลง และมีการเขียนร่างกฎหมายภายในสัปดาห์นี้  “มันไม่ได้หมายความว่าวันนี้คือวันที่เราจะได้ข้อตกลง แต่เป็นวันที่เราจะสามารถมีความเห็นร่วมกันเกี่ยวกับเงื่อนไขของเราเพื่อไปสู่ขั้นตอนต่อไป” นางเพโลซีกล่าว
  • (+) ดอลล์อ่อน นลท.ขายสกุลเงินปลอดภัยหลังแผนกระตุ้นศก.คืบหน้า  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความคาดหวังเกี่ยวกับความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.41% แตะที่ 93.0615  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9064 ฟรังก์ จากระดับ 0.9100 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3118 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3181 ดอลลาร์แคนาดา หากเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์ทรงตัวที่ระดับ 105.44 เยน  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1827 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1766 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2942 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2947 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7064 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7062 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (+) สหรัฐเผยตัวเลขเริ่มต้นสร้างบ้านต่ำกว่าคาดในเดือนก.ย.  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนก.ย. สู่ระดับ 1.415 ล้านยูนิต แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.457 ล้านยูนิต จากระดับ 1.388 ล้านยูนิตในเดือนส.ค.  ทั้งนี้ ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้นทุกภูมิภาค ยกเว้นในเขตมิดเวสต์  ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยวพุ่งขึ้น 8.5% สู่ระดับ 1.108 ล้านยูนิต
  • (-) จีนเผยสามารถผลิตวัคซีนต้านโควิดมากกว่า 600 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้  นายเจิ้ง จงเหว่ย เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) กล่าวว่า จีนมีความสามารถในการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 610 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้  นอกจากนี้ จีนจะขยายกำลังการผลิตวัคซีนในปีหน้าเพื่อรองรับความต้องการทั้งภายในและภายนอกประเทศ  นายเจิ้งระบุว่า จีนมองว่าวัคซีนต้านโควิด-19 เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับสาธารณะ จึงกำหนดราคาตามต้นทุน มากกว่าตามปัจจัยอุปสงค์-อุปทาน ซึ่งราคาดังกล่าวจะเป็นที่ยอมรับของสาธารณชน และกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะเป็นกลุ่มแรกๆที่ได้รับวัคซีนดังกล่าว
  • (+/-) ดาวโจนส์ปิดบวก 113.37 จุด รับความหวังสหรัฐใกล้คลอดแผนกระตุ้นศก.  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า พรรคเดโมแครตและทำเนียบขาวใกล้จะบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกหลังจากบริษัทโมเดอร์นาเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐอาจอนุญาตให้มีการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉินในเดือนธ.ค.นี้  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,308.79 จุด เพิ่มขึ้น 113.37 จุด หรือ +0.40% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,443.12 จุด เพิ่มขึ้น 16.20 จุด หรือ +0.47% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,516.49 จุด เพิ่มขึ้น 37.61 จุด หรือ +0.33%

ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More