- Advertisement -

แม้ว่าตั้งแต่เริ่มปีใหม่มา ตลาดทองคำได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง หลังราคาได้ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน

โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นเป็นเวลา 6 สัปดาห์ติดต่อกัน และราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 5% ในเดือนแรกของปี 2566 อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงไม่กระโดดเข้าสู่ตลาด

ทำให้นักวิเคราะห์บางคนตั้งคำถามว่า การขึ้นรอบนี้ มีความยั่งยืนเพียงใด

เพราะข้อมูลจากกองทุน SPDR Gold Shares ซึ่งเป็นกองทุนซื้อขายทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยังขายทองคำออกมา ล่าสุดวันนี้ (31 ม.ค.) ได้ขายทองคำออกมาอีก 1.14 ตัน ทำให้ยอดการซื้อขายทองคำของ ETF ในเดือน ม.ค. ติดลบ 0.58 ตัน

สัปดาห์ที่ผ่านมา Bank of America เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับทองคำ นักวิเคราะห์กล่าวว่า พวกเขาคาดว่าทองคำจะเป็นสินทรัพย์หลักในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่ง Bank of America ไม่ได้เป็นเพียงรายเดียวในมุมมองที่เป็นบวก

- Advertisement -

ในเดือน พ.ย. HANetf ผู้จัดการกองทุนยุโรป ได้สำรวจผู้จัดการกองทุนในยุโรปและอังกฤษ 100 คน จากผลการวิจัย 89% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ระบุตั้งใจที่จะเพิ่มลงทุนในทองคำ ทำให้ Tom Bailey head of ETF research ของ HANetf กล่าวในรายงานว่า ตอนนี้ความรู้สึกด้านลบต่อทองคำได้ผ่านพ้นไปแล้ว

ปัจจัยที่ใหญ่ที่สุด ที่ขับเคลื่อนความเชื่อมั่นในทองคำ ยังคงเป็นการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลงมากกว่า 10% นับตั้งแต่ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบ 20 ปี ในเดือน ก.ย.

นักวิเคราะห์กล่าวว่า เงินดอลลาร์สหรัฐฯ กำลังสูญเสียโมเมนตั้ม เนื่องจากตลาดคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะชะลอวงจรการคุมเข้มนโยบายการเงิน โดยตลาดคาดว่า FED จะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหลือเพียง 0.25%

ขณะที่ David Rosenberg esteemed economist กล่าวกับ Kitco News ว่า

มองว่าการประชุมในเดือน ก.พ. จะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายของ FED โดยมองว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่กำลังจะเกิดขึ้น จะบีบให้ธนาคารกลางต้องเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี

- Advertisement -

ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทำให้ David Rosenberg คาดว่า ทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจ และมองว่า ราคาจะพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่เหนือ 2,000 ดอลลาร์ ในปีนี้

แม้ว่าทองคำสามารถปิดบวกเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน แต่ความเชื่อมั่นในหมู่นักวิเคราะห์ของวอลล์สตรีท ยังมองเป็นขาลง แต่ก็ยังเชื่อว่า ทองคำจะฟื้นตัวและวิ่งไปที่ 2,000 ดอลลาร์ ได้ ขณะที่ นักลงทุนทั่วไป ยังคงมีความเชื่อมั่นในทองคำ

แม้ว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า ระยะยาวยังเป็นแนวโน้มขาขึ้นในตลาดทองคำ แต่หลายคนกล่าวว่า การตัดสินใจนโยบายการเงินของ FED ในวันพุธ จะสร้างความเสี่ยงอย่างมากในตลาด และนักลงทุนอาจต้องการล็อคกำไรบางส่วนไว้

สัปดาห์นี้ มีนักวิเคราะห์ของ Wall Street จำนวน 19 คนเข้าร่วมการสำรวจทองคำของ Kitco News

โดย 10 คน หรือ 53% มองว่าทองคำเป็นขาลงในระยะสั้น อีก 3 คน หรือ 16% ยังมองว่าเป็นขาขึ้น ที่เหลือ 6 คน หรือ 32% มองว่าราคาจะ sideway ออกข้าง

ในขณะที่ นักลงทุนทั่วไปที่ตอบแบบสอบถามออนไลน์ ในสัปดาห์นี้มีทั้งหมด 1,127 คน

ผู้ตอบแบบสอบถาม 723 คน หรือ 64% มองว่าทองคำจะปรับตัวขึ้น อีก 251 คน หรือ 22% ระบุว่าราคาจะลดลง ที่เหลือ 153 คน หรือ 14% ยังคงมองเป็นกลางต่อราคาทองคำในระยะสั้น

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ราคาทองคำจะมีแรงเทขายอีกครั้ง เนื่องจากตลาดอาจประเมินท่าทีที่แข็งกร้าวของธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่ำเกินไป

ขณะนี้ ตลาดกำลังมองว่า เฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมสัปดาห์นี้ และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน มี.ค. ก่อนจะยุติการใช้นโยบายการเงินอย่างเข้มงวด โดยคาดว่า จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย.

Adrian Day president of Adrian Day Asset Management มองว่า

ตลาดทองคำมีความเสี่ยงในระยะสั้น เนื่องจากผลการประชุมเฟดอาจจะออกมาผิดคาด แต่มองว่า หลังจากนั้นราคาทองคำจะกลับมา

ทั้งนี้ ด้วยโมเมนตั้มที่หนุนตลาดทองคำอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนคิดว่า มันเป็นเพียงเรื่องของเวลา ก่อนที่นักลงทุนจะกลับเข้าสู่ตลาดทองคำอีกครั้ง

ที่มา Kitco.com

- Advertisement -