- Advertisement -

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในวันนี้ ราคายังเคลื่อนไหวผันผันในกรอบ 1,870-1,885 ดอลลาร์ แต่ราคาทองคำในประเทศขยับไปได้ไม่ไกล เพราถูกค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นกดไว้ โดยในช่วงเช้าค่าเงินบาทได้แข็งค่าแตะ  30.16 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้ราคาทองคำในประเทศ จนถึงขณะนี้(16.00 น.) ลดลงไปแล้วบาทละ 200 บาท โดยขณะนี้ราคาซื้อเข้าอยู่ที่บาทละ  26,850 บาท ขณะที่ขายออกที่บาทละ 26,950 บาท

“เมื่อมองภาพรวมทางเทคนิค ราคาทองยังอยู่ในเวฟ 4 เตรียมขยับขึ้นเวฟ 5 แต่เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ หลังจากที่มีข่าวความคืบหน้าการผลิตวัคซีน COVID-19 ออกมา ทำให้ราคาถูกกระชากลงมาอย่างหนัก ทำให้ระยะเวลาในเวฟ 4 ต้องขยายตัวออกไป แม้ว่าขณะนี่ราคาทองคำจะมายืนแถว 1,880 ดอลลาร์ มองว่าเป็นเพียงการรีบาวด์แล้วลงต่อไม่ใช่การกลับตัว แต่หากราคายังสามารถทะลุไปยืนเหนือ 1,900 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง ก็อาจจะไปต่อได้ ซึ่งภาพรวมทั้งหมดจะตัดสินภายในสัปดาห์นี้ ”นายพิพัฒน์ วชิรลาภไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ เทรด จำกัด หรือ SCT กล่าวกับGoldAround.com

สำหรับกรอบแนวรับที่สำคัญ จะอยู่ในแนว 1,840-1,850 ดอลลาร์ หากว่ายังไม่สามารถรับได้อยู่อาจจะเห็นลงไปแตะแถว 1,800 ดอลลาร์ หรืออาจจะลึกกว่านั้น ซึ่งไม่อยากให้เกิดภาพนี้เพราะ จะต้องมาดูภาพรวมกันใหม่

แต่การที่ราคาจะพุ่งไปยืนเหนือ 1,900 ดอลลาร์ ในทางเทคนิคดูแล้วไม่ง่ายนัก ต้องอาศัยปัจจัยอื่นๆ มาเสริม ซึ่งประเด็นหลักที่ต้องจับตามองในช่วงนี้ คือการยื่นร้องต่อศาลของ “ทรัมป์” โดยอ้างว่ามีหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งนี้มีการโกง และหากศาลรับฟ้อง ก็จะทำให้ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐจะกลับมาอีกครั้ง และจะทำให้ราคาทองคำพุ่งทะยานทันที ในทางกลับกันหากศาลไม่รับฟ้อง ก็จะทำให้เส้นทางทางขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐของ”ไบเดน” สดใสมากขึ้น

- Advertisement -

“อย่างไรดีมองว่าช่วงนี้ ยังไม่ใช่ช่วงที่ดีของราคา goldspot  ระยะสั้นยังเป็นขาลงเพื่อลงไปพักฐานครั้งใหญ่ก่อนที่จะดีดกลับแรง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เชื่อว่าจะทำนิวโลว์ และดัชนีตลาดหุ้นยังต้องขึ้นอีกรอบ แต่ถ้าเป็นราคาทองคำไทยถือว่าน่าสนใจมาก เพราะค่าเงินบาทแข็งทำให้ราคาลดลงแรง ก็การเข้าซื้อช่วงนี้ถือว่ากำไรจากค่าเงินมาส่วนหนึ่ง เพราะแม้ว่าค่าเงินบาทอาจจะแข็งไปอีกระยะแต่ไม่น่าจะหลุด 30 บาทต่อดอลลาร์ เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจประเทศในภาพรวมได้  และสุดท้ายเชื่อว่าจะต้องอ่อนค่าลง อย่างไรก็ดีควรจะเป็นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น”กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ เทรด จำกัด กล่าว  

ส่วนเรื่องความคืบหน้าการผลิตวัคซีนป้องกัน COVID-19 นั้น เชื่อว่าหลังจากนี้ก็จะมีการออกมาเป็นระยะๆ แต่กว่าที่วัคซีนจะสามารถผลิตออกมาใช้ได้คงจะอีกนาน และกว่าที่เศรษฐกิจจะฟื้นคืนกลับมาก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย และจะทำให้เศรษฐกิจโลกซึมต่อเนื่องไปอีก 1-2 ปี เพราะที่ผ่านมามีการใช้เม็ดเงินปริมาณมหาศาลในการเข้ามาแก้ปัญหา และทางออกก็คือเรื่องการใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำไปอีกนาน

ปัจจัยทั้งหมดทำให้ภาพรวมของทองคำในระยะยาวยังคงดีอยู่ โดยมองว่าโอกาสที่จะกลับไปพุ่งทะลุ 2,075 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุด ไปแตะระดับ 2,150-2,200 ดอลลาร์ และราคาทองคำไทยกลับไปแตะบาทละ 30,000 บาท มีความเป็นไปได้ แต่จะเป็นช่วงไหนต้องรอให้ราคาทองคำเข้าสู่เวฟ 5 จึงจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น

ขอขอบคุณ : SCT Gold บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จำกัด

- Advertisement -