- Advertisement -

ราคาทองคำเมื่อวานนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้ ในระหว่างวันราคาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 1,767 ดอลลาร์ แต่ช่วงท้ายตลาดถูกกดดันจากดัชนีดอลลาร์ที่พุ่งแตะที่ 93.18 เพิ่มขึ้น 0.28%

ส่วนหนึ่งเป็นผลจากเงินปอนด์อ่อนค่าลง หลังสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ รายงานยอดค้าปลีกเดือน ส.ค. ปรับตัวลง 0.9% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% โดยยอดค้าปลีกเดือน ส.ค. ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำได้แรงหนุนบางส่วนจากตัวเลข ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือน ก.ย. ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.1 จากเดือน ส.ค. อยู่ที่ระดับ 70.3 ทำให้ราคาทองคำสามารถมาปิดที่ระดับ 1,755 ดอลลาร์

ขณะที่ ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำทั้งสัปดาห์ ได้ปรับตัวลดลงถึง 32 ดอลลาร์ จากที่ต้นสัปดาห์ เปิดตลาดที่ 1,787 ดอลลาร์ และราคาทองคำได้พยายามขึ้นทดสอบที่ระดับ 1,810 ดอลลาร์ แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ ก่อนจะถูก ดัชนีดอลลาร์ และบอนด์ยีลด์ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศในวันพุธและพฤหัสออกมาดี ทำให้มีการคาดการณ์ว่า FED อาจจะเร่งปรับนโยบายการเงินเร็วกกว่าที่กำหนดไว้

ทำให้ราคาทองคำลดลงไปแตะ 1,745 ดอลลาร์ ก่อนจะฟื้นตัวกลับมายืนเหนือ 1,750 ดอลลาร์ และปิดสัปดาห์ที่ 1754.95 ดอลลาร์ ( ดูกราฟการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ )

แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ปลอดภัยนัก เพราะนักลงทุนรอฟังผลจากการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หรือ FOMC ในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ ว่าในท้ายที่สุดแล้ว จะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินหรือไม่ ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาเช่นไรจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำอย่างแน่นอน

ขณะที่ราคาทองคำในประเทศที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำ เช้านี้ (18 ก.ย.)ลดลงอีก บาทละ 100 บาท โดยราคารับซื้อทองคำแท่ง อยู่ที่บาทละ 27,600 บาท ขณะที่ราคาขายออก อยู่ที่บาทละ 27,700 บาท ( ดูตารางราคาทองคำของสมาคมค้าทองคำ )
ด้านกองทุน SPDR Gold Trust ได้ซื้อทองคำเพิ่ม 1.74 ตัน ( อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม )

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ซื้อ-ขาย หรือลงทุน หรือเป็นเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และหรือ ความเสียหายที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

- Advertisement -