Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

ทองคำช่วงโค้งสุดท้ายของปียังได้ลุ้น จับตา FED จะเอาไง เงินเฟ้อยังพุ่ง จ้างงานลดฮวบ

- Advertisement -

275

- Advertisement -

แม้ว่าเมื่อตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. จะยังทรุดต่ำลงต่อเนื่อง ทำให้นักวิเคราะห์ต่างเฝ้าจับตามองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด จะมีท่าทีกับตัวเลขที่ออกมาอย่างไร และจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบาบการเงินที่ประกาศไว้หรือไม่ เพราะจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในไตรมาส 4 โดยตรง

ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวกับ GoldAround.com ว่า หลังจากที่ราคาทองคำได้ทำจุดสูงสุดใหม่ (new high) เมื่อปีที่ผ่านมา จากนั้นราคาได้เคลื่อนไหวลักษณะ sideway down อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าบางช่วงเวลาราคาทองคำพยายามจะดันกลับขึ้นไปแต่ก็ไม่สำเร็จ และเมื่อมามองด้านเทคนิคในระยะสั้นจะเห็นได้ว่า ราคายังก็ยังไม่สามารถทะลุแนวต้านขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ได้ ทั้งแนวต้าน 1,770 ดอลลาร์ 1,800 ดอลลาร์ รวมถึง 1,830 ดอลลาร์

ในทางกลับกัน ราคากลับทำจุดต่ำสุดใหม่ (lower low) โดยแนวรับ 1,745 ดอลลาร์ ได้ถูกทำลายลงไป เกิดแนวรับใหม่ที่ 1,720 ดอลลาร์ 1,700 ดอลลาร์ และอาจจะลงไปถึง 1,680 ดอลลาร์ แต่หากราคายังทะลุแนวรับดังกล่าวลงไปได้อีก คงจะต้องกลับมาทบทวนภาพรวมของราคาทองคำอีกครั้ง

- Advertisement -

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ ตราบใดที่ราคาทองคำยังทะลุแนวต้านเดิมได้ ก็ยังเป็นจังหวะราคาเด้งแล้วก็ขาย เมื่อราคาลงมาก็ซื้อทำกำไร

แต่สิ่งที่น่าจับตาคือราคาทองคำในประเทศ เพราะหลังจากที่ดอลลาร์ได้แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนลงมาก ส่งผลให้ทำให้ราคาทองคำในประเทศมายืนเหนือบาทละ 28,000 บาทได้

“จากต้นปีค่าเงินบาทได้อ่อนค่าลงมาประมาณ 10% ขณะที่ราคา gold spot ลดลงไปประมาณ 7% จึงทำให้ราคาทองคำในประเทศยังคงเป็นบวกอยู่ และราคาทองคำไทยยังมีโอกาสทำกำไรได้ ตอนนี้กรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่บาทละ 27,500-28,500 บาท ซึ่งเมื่อมองกราฟราคาทองไทย เหมือนกับอยูระหว่างรอเลือกทาง ทำให้การลงทุนทองคำไทยในช่วงนี้ ต้องเล่นไปตามกรอบราคา โดยเมื่อราคาลงมาเหลือ 27,700-27,800 บาท สามารถทยอยซื้อ เพื่อมาขายทำกำไรในช่วง 28,000 -28,200 บาท แต่ทั้งนี้ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกลชิด” ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าว

ส่วนปัจจัยที่ต้องจับตามอง ก็คือ การเคลื่อนไหวของกลุ่มกองทุน โดยเฉพาะ SPDR หลังจากที่เทขายทองคำมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเหลือถือครองทองคำไม่ถึง 1 พันตัน ( อ่านข่าว SPDR ล่าสุด ) ต้องดูว่า ถึงเวลาจะซื้อกลับเข้ามาบ้างหรือยัง เพราะปัจจัยหนุนของราคาทองคำก็ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะเรื่องของเงินเฟ้อ และตัวเลขการจ้างงาน ที่ยังคงไม่ดี ซึ่งเฟดให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากกว่าดัชนีชี้วัดตัวอื่น ๆ

photo by Michael Steinberg | pexels.com
photo by Michael Steinberg | pexels.com

- Advertisement -

“ผลกระทบจากเรื่องเงินเฟ้อและตัวเลขการจ้างงาน ถือเป็นปัจจัยหลักที่ต้องจับตามอง เพราะจะส่งผลต่อนโยบายของ เฟด ซึ่งเรื่องของการลด QE มองว่า เฟดคงจะประกาศแผนงานในปีนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะส่งผลเสียต่อราคาทองคำ เพราะหากปริมาณเงินที่จะลดลงไม่มากพอ อาจจะส่งผลดีต่อราคาทองคำด้วยซ้ำ ประกอบกับเมื่อไปย้อนดูการลด QE ของเฟด ในวิกฤตเศรษฐกิจครั้งที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าราคาทองคำยังปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่อาจจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำลง จนกระทั่งเฟดได้เริ่มปรับเพิ่มดอกเบี้ย ราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงแรง และปรับทิศเป็นขาลง” ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าว

ส่วนเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย คงต้องรอดู dot plot ในการประชุม FOMC ในเดือน ต.ค. ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ หลังตัวเลขการจ้างงานไม่สู้ดี และอัตราเงินเฟ้อยังสูงต่อเนื่อง ซึ่งในประเด็นเงินเฟ้อ จะมีทั้งที่เป็นบวกและลบกับราคาทองคำ ต้องดูว่าตลาดจะสะท้อนความกังวลส่วนไหนมากกว่ากัน หากออกมาในทำนองเฟดจำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย จะส่งผลลบต่อราคาทองคำโดยตรง

ขอขอบคุณ : ศูนย์วิจัยทองคำ

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More