ทิศทางราคาทองคำครึ่งปีหลัง 2566 จะไปทางไหน พูดคุยกับ คุณธีรรัฐ จุฑาวรากุล บจ.อินเตอร์โกลด์ InterGOLD
ทิศทางราคาทองคำครึ่งปีหลัง 2566 จะขึ้นต่อ! หรือชะลอตัว?
พูดคุยกับ คุณธีรรัฐ จุฑาวรากุล – บจ.อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด (InterGOLD)
ทองคำครึ่งปีแรกสุดแกร่ง บวกแรงทั้งทองไทยและ gold spot หลังจากนี้ต้องระวัง เหตุดอกเบี้ยยังขยับขึ้นอีก
ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
.
.
รับชมคลิป ทิศทางราคาทองคำครึ่งปีหลัง 2566
คุณธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บจ.อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด กล่าวกับ GoldAround ว่า
ภาพรวมทองคำครึ่งปีแรก ราคา gold spot อาจจะขึ้นมาไม่มากแค่ $96 แต่ราคาทองไทยกลับสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น บวกเพิ่มมาบาทละ 2,150 บาท โดยได้อานิสงส์จากเงินบาทที่อ่อนค่า
แต่หากดูสถานการณ์เฉพาะไตรมาส 2 ราคา gold spot อาจจะปรับตัวลง กลับมาติดลบ $50 แต่ราคาทองไทยยังทรงตัว เพราะเงินบาทช่วยพยุงไว้ ก่อนจะปิดไตรมาส 2 บวกเพิ่มมาเล็กน้อย
แต่ในช่วงครึ่งปีหลัง มองว่า ราคาทองคำยังถูกกดดันจากนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ยังคงเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อ เพื่อต้องการจะดึงเงินเฟ้อให้กลับมาตามเป้าหมายที่ 2 % ทำให้ในระยะสั้นดูเหมือนทองคำจะไม่มีปัจจัยบวกเข้ามา
หากจะมาดูเรื่องของเงินเฟ้อในช่วงนี้ แม้ว่าจะไม่ได้พุ่งแรงเหมือนในอดีต แต่เมื่อมาดูถึงสาเหตุหลัก ก็น่าจะมาจากเรื่องราคาพลังงานที่ปรับลดลง แต่ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตยังสูงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นราคาอาหาร และราคาที่อยู่อาศัย ซึ่งอาจจะส่งผลตามมาในอนาคต อาจจะทำให้เศรษฐกิจประสบปัญหา หรืออาจจะเห็นการประท้วงในบางประเทศได้
“ผมยังเชื่อว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยตามที่ระบุไว้ เพราะเงินเฟ้อก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะเป็นขาลงจริง ๆ ส่วนที่ลดลงมีเพียงราคาพลังงาน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเพียงแค่ลดลงชั่วคราวหรือไม่ แต่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งจะต้องมาดูว่า การที่ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง จะมีเป้าหมายอะไรมากกว่าจะคุมเงินเฟ้อหรือไม่ อาทิ การโอนถ่ายธุรกรรมการเงินปกติไปสู่ดิจิตัลเคอเรนซี่ รวมไปถึง จะส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง” กรรมการผู้จัดการ บจ. อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด
อย่างไรก็ดี แม้ว่านโยบายการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาทองคำ ซึ่งอาจจะทำให้ราคา gold spot ปรับลดลงได้ แต่ยังมองว่า ราคาจะลงไปไม่มาก เพราะจะเห็นได้จากช่วงที่ผ่านมา เมื่อราคาปรับตัวลดลง ก็จะเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาช่วงพยุงราคาไว้
ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะคนเริ่มรู้สึกได้ว่าเงินเฟ้อมันไม่ลดลงจริง ๆ เนื่องจากสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ก็ยังมีทีท่าว่าจะยืดเยื้อไปเรื่อย ๆ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงกับสินค้าโภคภัณฑ์ และราคาพลังงาน นอกจากนี้ ทั่วโลกยังจับตาสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐฯ หากว่าประทุขึ้นมาจริง ก็จะส่งผลต่อระบบการค้า การผลิต และซัพพลายเชนทั่วโลก ซึ่งมองว่า หลังจากนี้โลกจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ย้อนกลับมาที่ตลาดทองคำ ในช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อว่าราคาอาจจะปรับตัวลดลง โดยอาจจะหลุดระดับ 1,900 ดอลลาร์ ลงไปแตะระดับ 1,860 ดอลลาร์ หรือมากกว่านั้นได้
โดยได้รับแรงกดดันจากเรื่องของการปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่จะเป็นการลงไปเพื่อสะสมพลังในการดีดกลับไปเหนือ 2,000 ดอลลาร์อีกครั้ง เพราะเมื่อมองไปในอนาคต ยังเห็นปัญหาอยู่มากมาย โดยเฉพาะปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ในพื้นที่ต่าง ๆ
นอกจากนั้น ยังมองว่าแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารต่าง ๆ ได้ปรับขึ้นมา ก็ยังน้อยกว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่คงอยู่ในปัจจุบัน ทำให้ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยกับเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ ประกอบกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ทำให้สัญญาณเรื่องของเศรษฐกิจถดถอยคงแรงขึ้น ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังแปลกใจว่าเหตุใดภาคอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ได้รับผลกระทบ ทั้งที่ดอกเบี้ยได้ปรับขึ้นสูงมาก นอกจากนั้น ยังคงต้องจับตาปัญหาภาคการธนาคารด้วย
กลับมาที่ทองคำไทย ที่ผ่านมาได้รับแรงหนุนจากเงินบาทที่อ่อนค่า และมองว่ายังมีแนวโน้มจะอ่อนค่าไปอีกระยะ อาจจะทะลุระดับ 36 บาท ต่อดอลลาร์ แต่จะเป็นการอ่อนค่าเพื่อกลับมาแข็งค่าไปแถว 33 บาท ต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ จะได้แรงหนุนจากเงินทุนไหลกลับมาฝั่งเอเชีย รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในประเทศไทยด้วย ทำให้มองว่า ในระยะสั้นราคาทองคำไทยมีแนวโน้มจะปรับตัวลดลง แต่จุดต่ำสุดน่าจะไม่ต่ำกว่าช่วง 31,000 กลาง ๆ และมีโอกาสที่จะกลับขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้ และอาจจะทะลุไปได้ เมื่อราคา gold spot ที่จะดีดกลับมา
แต่ทั้งนี้ มองว่าการลงทุนทองไทยยังมีแนวโน้มที่ดี และมีความปลอดภัย เนื่องจากจะมีค่าเงินบาทเข้ามาพยุงไว้ หากว่าราคาปรับลดลง ยังเป็นช่วงเวลาที่ซื้อเก็บสะสม
Comments are closed.