- Advertisement -

เหลือเวลาอีกเพียง 7 วัน ก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ซึ่งทั่วโลกต่างเฝ้าจับตามองว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะ ระหว่าง “โดนัล ทรัมป์” จากพรรครีพับลิกัน หรือ “โจ ไบเดน” จากพรรคเดโมแครต เพราะจะมีความสำคัญต่อทิศทางเศรษฐกิจและการเมืองของโลก รวมถึงตลาดทองคำด้วย

นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวกับ GoldAround.com ว่า ยังไม่อยากคาดการณ์ว่าราคาทองคำหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเป็นเช่นไร แต่เชื่อว่าในระยะแรกราคาอาจปรับลดลงมาก่อน จนกว่าจะมีการประกาศนโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่ ทั้งนี้ จะขอโฟกัสใน 2 เรื่องหลัก คือ การแก้ปัญหาของ COVID-19 และเรื่องนโยบายต่างประเทศ ซึ่งจะเกี่ยวโยงกับสงครามการค้า

นายจิตติฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อดูภาพรวมนโยบายของตัวแทน 2 พรรคการเมืองใหญ่ มองว่าไม่ต่างกันมาก เบื้องต้นจะต้องหาทางแก้ปัญหาการแพร่ระบาด COVID-19 ให้คลี่คลายลง เพราะขณะนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนการแก้ปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจ ทั้งสองพรรคการเมืองก็จะมีการอัดฉีดเงินเข้าระบบเหมือนกัน แต่ปริมาณก็จะต่างกัน

ส่วนเรื่องของนโยบายต่างประเทศ หาก “ทรัมป์” ยังสามารถครองเก้าอี้ประธานาธิบดีต่ออีกสมัย ก็อาจจะทำให้ความวุ่นวายยังคงมีอยู่ หลังจากได้เปิดฉากทำสงครามการค้ากับจีนและยุโรป ไว้ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่ยังไม่เคยเห็นนโยบายของ “โจ ไบเดน” ว่าจะดำเนินการในส่วนนี้อย่างไร

- Advertisement -

นายจิตติฯ ยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำค่อนข้างจะเคลื่อนไหวผันผวน จึงควรมองราคาทองในระยะสั้นๆ ซึ่งในภาพรวมช่วงนี้ตลาดค่อนข้างจะเงียบ และไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ทำให้มองว่าราคาทองคำคงจะเคลื่อนไหวกรอบแคบ ในแนว 1,900 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1,925 ดอลลาร์ แต่หากราคาวิ่งสวนลงมาต่ำกว่า 1,900 ดอลลาร์ ก็น่าเข้าลงทุน แต่ขอให้เป็นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น ส่วนในระยะกลางและยาวอยากให้รอการประกาศนโยบายของ ปธน.สหรัฐฯ คนใหม่อีกครั้ง

ส่วนการที่มีนักวิเคราะห์ ระบุว่า ราคาทองอาจจะพุ่งไปแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์ 2,100 ดอลลาร์ 2,500 ดอลลาร์ หรือ 3,000 ดอลลาร์ นั้น นายกสมาคมค้าทองคำ ระบุว่า ทุกอย่างเป็นไปได้หมด เบื้องต้นคาดว่าโอกาสที่จะกลับไปแตะในระดับ 2,000 ดอลลาร์ มีความเป็นไปได้ ส่วนที่เหลือต้องรอปัจจัยอื่นเข้ามาเสริม และต้องเป็นปัจจัยที่ใหญ่ และมีความรุนแรง

หากจะย้อนไปดูในช่วงที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปแตะ 2,074  ดอลลาร์ จนเป็นสถิติสูงสุดในขณะนี้ ได้มีเหตุระเบิดในกรุงเบรุตเข้าเสริมด้วย ไม่ได้เกิดจากการขยับตัวด้วยปัจจัยพื้นฐานเพียงอย่างเดียว หลังจากนี้ก็เช่นกัน การจะขยับขึ้นไปสูงกว่าจุดเดิมก็ต้องรอปัจจัยใหม่เข้ามาเสริม

นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ

ที่สำคัญ อยากให้จับตาดูการเคลื่อนไหวของกองทุนทองคำขนาดใหญ่ด้วย เพราะที่ผ่านมาได้เทขายทองคำออกมาน้อยมาก โดยเฉพาะ SPDR ปัจจุบันถือครองทองคำอยู่กว่า 1,200 ตัน ซึ่งอาจมีการเทขายออกมาเพื่อทำกำไรหลังจากนี้

ส่วนตลาดค้าทองในประเทศ นายจิตติฯ ยอมรับว่า การค้าทองรูปพรรณในภาพรวมค่อนข้างน่าเป็นห่วง ปริมาณการซื้อขายน้อยมาก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมไม่ดี และคาดว่าจะต้องเป็นไปในลักษณะนี้อย่างน้อยอีก 1 ปี จึงอยากจะแนะนำให้ผู้ประกอบการได้วางแผนการดำเนินงานในระยะยาวเอาไว้ เพราะสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยังไม่เห็นทิศทางการฟื้นตัวกลับมา

- Advertisement -

ขณะที่ ปัญหาความวุ่นวายในประเทศ ก็จะทำให้การฟื้นตัวยืดเวลาออกไปอีก ซึ่งตอนนี้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องลดต้นทุนการดำเนินงานให้ต่ำลงหรือหารายได้จากส่วนอื่นเข้ามาเสริม

ส่วนตลาดการลงทุนทองคำแท่งนั้นยังไปได้ดี แต่ขึ้นอยู่กับช่วงเวลานั้น ๆ ด้วยว่า ราคามีการเคลื่อนไหวมากน้อยเพียงไร แต่ทองคำก็ยังเป็นที่สนใจของนักลงทุนอยู่เสมอ

ขอขอบคุณ : สมาคมค้าทองคำ

- Advertisement -