นักลงทุนกลับมาให้ความสนใจกับตลาดทองคำมากขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เตรียมจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. และ ในปี 2566
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ของ Wall Street ไม่เชื่อว่าทองคำพร้อมที่จะพุ่งไปข้างหน้า โดยมองว่าในระยะสั้นราคาทองคำจะยังคง sideway
จากผลสำรวจสัปดาห์ล่าสุดของ Kitco News Weekly Gold Survey
มีนักวิเคราะห์ 16 คนของ Wall Street ได้เข้าร่วมการสำรวจ นักวิเคราะห์ 7 คน หรือ 44% มองเป็นกลางต่อราคาทองคำในระยะใกล้ อีก 6 คน หรือ 38% มองว่ามีแนวโน้มขาขึ้นในสัปดาห์หน้า (28 พ.ย. – 2 ธ.ค.) ที่เหลือนักวิเคราะห์ 3 คน หรือ 19% มองว่าราคาจะลดลง
ขณะที่ นักลงทุนทั่วไปสัปดาห์นี้มีผู้ตอบแบบสอบถามทางออนไลน์มากถึง 1,054 คน โดย 667 คน หรือ 63% มองว่าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า อีก 253 คน หรือ 24% มองว่าราคาจะลดลง ที่เหลือ 134 คน หรือ 13% มองเป็นกลางในระยะใกล้
ไม่เพียงแต่นักลงทุนจะเชื่อมั่นในทองคำเพิ่มขึ้น แต่การเข้าร่วมการสำรวจในสัปดาห์นี้ก็พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุด นับตั้งแต่ปลายเดือน ก.ย.
ทั้งนี้ แนวโน้มที่หลากหลายของทองคำ เกิดขึ้นหลังราคาสิ้นสุดสัปดาห์เหนือ 1,750 ดอลลาร์ นอกจากจะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์แนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด ที่แลดูผ่อนคลายลงแล้ว นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่า กำลังนั่งเฝ้ามองดูว่า จะมีเม็ดเงินจะไหลจากดอลลาร์เข้าสู่ทองคำอย่างไร
นักวิเคราะห์สังเกตว่า ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ได้กลับมาที่ระดับ 106 และเมื่อดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง จะเป็นผลบวกต่อทองคำ
Bob Haberkorn senior market strategist ของ RJO Futures กล่าวว่า
ในขณะที่ ทองคำมีความสนใจเพิ่มขึ้น แต่การที่ราคาจะพุ่งขึ้นไปแตะ 1,800 ดอลลาร์ จำเป็นต้องมีตัวเร่งปฏิกิริยาใหม่ โดยทุกคนกำลังให้ความสนใจว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงแค่ไหน แต่ส่วนตัวแล้วยังมองว่า ราคาทองคำจะยังคงแกว่งตัวไปด้านข้าง จนกระทั่งการประชุม Fed เสร็จสิ้น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คนอื่นๆ ไม่เชื่อว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะอ่อนค่าลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังมองว่าเฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่า 5% ในต้นปีหน้า
ทั้งนี้ Adrian Day president of Adrian Day Asset Management กล่าวว่า
ภาพรวมทองคำดีขึ้น หลังจากที่มีการขยับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน แต่ Adrian Day มองว่า ทองคำจะต้องพักฐานก่อน หากไม่มีแรงหนุนใหม่ ๆ เข้ามา ทำให้ราคาทองคำอาจจะไม่เปลี่ยนแปลงในสัปดาห์นี้ และจะมีการเคลื่อนไหวอีกครั้งเมื่อเข้าใกล้การประชุมของเฟด และธนาคารกลางยุโรป ในช่วงกลางเดือน ธ.ค.
ที่มา : Kitco.com
Comments are closed.