- Advertisement -

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์

ข่าวสดออนไลน์ : รายงานว่าภายหลัง พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้รับการแต่งตั้งเป็น หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงการปราบปรามอาชญากรรมทุกประเภท การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ได้จัดทำแผนไว้ 3 ขั้นตอน ในการดูแลความเรียบร้อย

ขั้นที่ 1 การจัดตั้งจุดตรวจ จุดให้คำแนะนำกับผู้ที่สัญจร อย่างน้อยจังหวัดละ 2 จุด โดยให้ตำรวจ กระทรวงมหาดไทย ,กระทรวงสาธารณสุข ประสานงานกับ บูรณาการร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะ ผอ.รมน. ระดับจังหวัด ซึ่งจะเป็นผู้กำหนดว่าจะตั้งในช่วงเวลาใด และจุดไหน เพื่อให้คำแนะนำการดูแลรักษาสุขภาพ และข้อปฏิบัติ เพื่อไม่ให้เชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่กระจายต่อไป

ขั้นที่ 2 หากเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจได้ให้คำแนะนำ และพูดถึงมาตรการในการป้องกันดูแลตนเองแล้ว แต่ประชาชนไม่เชื่อฟังคำสั่ง คำประกาศ อาจจะต้องใช้กำลังเพิ่มขึ้นมา อีกระดับหนึ่ง โดยการใช้เจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร (สห.) เข้ามารวมในจุดตรวจเพิ่มเติมและขั้นที่ 3 การใช้กำลังทหารเข้ามาเต็มรูปแบบ คาดว่าเหตุการณ์ไม่น่าไปถึงจุดนั้น

ด้ายนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้แถลงมาตรการแก้ไขปัญหาการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในส่วนของแผนปฏิบัติงานการเคอร์ฟิว ว่า ตามข้อกำหนดฉบับที่ 1 ยืนยันว่า ยังไม่มีการประกาศเคอร์ฟิว จัดอยู่ในประเภทมาตรการควรทำ ยังไม่ได้ห้าม เป็นคำเตือนระดับที่ 1 แต่ถ้าจะไปถึงขั้นห้าม ก็จะมีการเตือนโดยไม่ออกข้อกำหนดล่วงหน้า เพื่อไม่ให้ตื่นตระหนก ไม่ให้กักตุน ซื้อของเป็นที่โกลาหล

- Advertisement -

นายวิษณุกล่าวเพิ่มเติมว่า หากมีการประกาศเคอร์ฟิว การประกาศจะไม่เหมือนกับสิ่งที่เคยเจอ คือ ที่ผ่านมาเคอร์ฟิวจะประกาศห้ามออกกลางคืนเพราะมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาความมั่นคง แต่เชื้อไวรัสโควิด-19 ออก 24 ชั่วโมง ดังนั้น หากจะมีประกาศจะเคอร์ฟิวตลอด 24 ชั่วโมงแบบมีข้อยกเว้น เช่น ไปซื้อของ ไปหาหมอ ไปธนาคาร ไปส่งสินค้ารับสินค้าได้ ไปศาลได้ วิทยุ โทรทัศน์ ต้องออกข่าวได้ ซึ่งข้อยกเว้นในประกาศฉบับที่ 1 จะถูกนำมาใช้ในการประกาศครั้งต่อไป

- Advertisement -