การเคลื่อนไหวของราคาทองคำตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ได้ขยับไซด์เวย์ขึ้นลงในกรอบ 1,900-1,915 ดอลลาร์ หลังราคาได้ขยับเพิ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อวานนี้ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศ ไม่มีการเคลื่อนไหว หลังจากที่เปิดตลาดช่วงเช้าเพิ่มขึ้นบาทละ 150 บาท
“ในภาพรวมของราคาขณะนี้ มองว่าได้ปรับขึ้นมาเกือบจะชนกรอบด้านบนแล้ว ดังนั้นทำให้มีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับลดลงมา ซึ่งหากราคาลดต่ำกว่า 1,900 ดอลลาร์ ก็สามารถเข้าซื้อเก็บลงทุนได้ โดยคาดว่าราคาอาจจะย่อลงมาถึง 1,870 ดอลลาร์ 1,850 ดอลลาร์ และอาจจะลงลึกไปถึง 1,790 ดอลลาร์ได้ “นายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด กล่าวกับ GoldAround.com
อย่างไรก็ดีเชื่อว่าราคาไม่จะลงลึกเกิน 1,850 ดอลลาร์ และหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในวันที่ 3 พ.ย. ไม่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะได้รับชัยชนะ คาดว่าราคาทองคำจะดีดกลับไปแตะจุดสูงสุดเดิมที่ 2,070 ดอลลาร์ได้อีกครั้งอย่างแน่นอน
ปัจจัยหลักเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในภาพรวมถือว่ารุนแรง เกือบทุกประเทศมีการฉีดเงินปริมาณมหาศาลเพื่อเข้าไปแก้ปัญหา และการควบคุมแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังต้องใช้เวลาอีกนาน แต่ต้องรอดูผลการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐด้วยว่าใครจะได้รับชัยชนะ หาก ปธน.ทรัมป์ เป็นฝ่ายชนะก็อาจจะเกิดขึ้นได้เร็วกว่าที่นายโจ ไบเดน จะได้รับชัยชนะ
ส่วนการเคลื่อนไหวชองราคาทองคำในช่วงนี้ จะเป็นลักษณะไซด์เวย์ไปจนถึงช่วงก่อนการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐ โดยกรอบแนวต้านหากราคาทะลุ 1,910 ดอลลาร์ไปได้ จะไปอยู่ที่ระดับ 1,920 ดอลลาร์ และ-1,933 ดอลลาร์
ขณะที่ฝั่งแนวรับจะอยู่ที่ 1,890 ดอลลาร์ 1,872 ดอลลาร์ และ 1,850 ดอลลาร์ ตามลำดับ ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคาในลักษณะนี้ กลุ่มนักลงทุนระยะสั้นจะไม่เสียเปรียบ และแนะนำเล่นฝั่งซื้อเพราะเทรนด์ใหญ่ยังคงเป็นขาขึ้น
ส่วนความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในประเทศ ในช่วงนี้จะต้องเกาะติดสถาการณ์การชุมนุมทางการเมืองอย่างใกล้ชิดว่า จะยืดเยื้อหรือจะจบลงอย่างไร เพราะจะส่งผลต่อค่าเงินบาท หากมีการอ่อนค่าลง ก็จะส่งผลต่อราคาทองคำในประเทศโดยตรง
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.