- Advertisement -

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำ spot ได้ปิดตลาดลดลงเป็นสัปดาห์แรก หลังจากปิดบวกมา 4 สัปดาห์ติดต่อกัน

เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น 0.13% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับสูงสุดที่ 1.353% แม้ว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้รับแรงกดดันจากผลประชุมธนาคารกลางยุโรป ที่ส่งสัญญาณปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินป้องกันผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 (PEPP)

แต่ในวันศุกร์ ทองคำโดนแรงเทขาย เนื่องจากสหรัฐฯ ประกาศดัชนีราคาผู้ผลิต เดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนว่าเงินเฟ้อในสหรัฐฯ จะอยู่ในระดับสูงต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง ทำให้ตลาดกังวลว่า เฟดจะเร่งปรับลดวงเงินมาตรการ QE ภายในปีนี้ และเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนั้น ราคาทองคำยังถูกแรกดดันจากประธานเฟดสาขาต่าง ๆ ที่หนุนให้ลด QE โดยล่าสุด ประธานเฟดคลีฟแลนด์ ที่ออกมาแสดงความเห็นสนับสนุนให้เฟดเริ่มปรับลดวงเงิน QE ในปีนี้ แม้สหรัฐฯ มีการจ้างงานที่อ่อนแอใน เดือน ส.ค. ก็ตาม ( อ่านรายละเอียด ปธ.เฟด ดาหน้าหนุนลด QE )

ส่วนราคาทองคำในช่วงเช้า ได้ขยับขึ้น จาก 1,783 ดอลลาร์ มาเคลื่อนไหวแถว 1,790 ดอลลาร์ ( ดูกราฟการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ) คาดว่าในวันนี้ ราคาจะขยับ sideway เพราะไม่มีข่าวสารมากนัก แต่คงต้องติดตามดัชนีดอลลาร์ ว่าจะขยับไปทิศทางไหน

- Advertisement -

ขณะที่ ราคาทองคำในประเทศ ที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำลดลงอีก บาทละ 50 บาท โดยราคารับซื้อทองคำแท่ง ล่าสุดอยู่ที่บาทละ 27,650 บาท ขณะที่ราคาขายออก อยู่ที่บาทละ 27,750 บาท ( ดูตารางราคาทองคำของสมาคมค้าทองคำ )

ทั้งนี้ ภาพรวมในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำในประเทศลดบาทละ 300 บาท โดยลดลงตามราคา gold spot จากที่ต้นสัปดาห์อยู่แนว 1,827 ดอลลาร์ ก่อนมาปิดสัปดาห์ที่ 1,790 ดอลลาร์

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ซื้อ-ขาย หรือลงทุน หรือเป็นเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ และอาจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และหรือ ความเสียหายที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

- Advertisement -