ทองคำปรับลงต่อเนื่องต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์
วันนี้ตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
ราคาทองคำคาดสร้างฐานที่แนวรับ 1,770-1,780 ดอลลาร์
- ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปรับลงต่อเนื่องต่ำกว่า1,800 ดอลลาร์โดยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ากดดันตลาดทองคำ จากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง โดย GDP ประจำไตรมาส 3/2564 ขยายตัว 2.1% และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 2512 ส่วนดัชนี PCE พื้นฐานพุ่งขึ้นมากสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2533 และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันบัตรรัฐบาลสหรัฐทำให้เจ้าหน้าที่เฟดสนับสนุนให้มีการเร่งปรับลดวงเงิน QEส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือทองคำเท่าเดิม
- วันนี้ตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ทำให้คืนนี้สหรัฐไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ส่วนพรุ่งนี้ตลาดการเงินสหรัฐเปิดทำการครึ่งวัน เนื่องในวัน Black Friday
- แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจากขาดปัจจัยที่เข้ามากระทบต่อตลาด เนื่องจากวันนี้ตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการและสหรัฐไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ทั้งนี้คาดจะราคาทองคำจะสร้างฐานที่แนวรับ 1,770-1,780 ดอลลาร์โดยมีแนวต้าน1,800 ดอลลาร์ และ 1,810 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,788.30 | -0.4 | 1,780/1,770 | 1,800/1,810 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
28,300 | +100 | 28,100/27,950 | 28,400/28,550 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
28,350 | -50 | 28,280/28,120 | 28,560/28,690 |
การเข้าซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวแนะนำเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,770ดอลลาร์ (GF 28,120บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,760ดอลลาร์ (GF27,910 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,787.80 | -6.30 | 1,781/1,771 | 1,801/1,811 |
การเข้าซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวแนะนำเมื่อราคาGOZ21ปรับลงมาที่ 1,771ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,761ดอลลาร์
ค่าเงิน
แนวโน้มค่าเงินบาทในวันนี้มีทิศทางอ่อนค่าเนื่องจากปัจจัยดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยตลาดจับตา Flow จากทองคำที่ส่งผลให้บาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว โดยUSD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33.20บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน33.50 บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์แข็งค่าขานรับเจ้าหน้าที่เฟดหนุนเร่งลดQE
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (24 พ.ย.) หลังจากที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้มีการเร่งปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งจะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.39% แตะที่ 96.8639 เมื่อคืนนี้
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก 50 เซนต์นลท.ช้อนซื้อหลังราคาร่วงหนัก
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (24 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงช้อนซื้อเก็งกำไรหลังสัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกัน 4 วันทำการอย่างไรก็ดีสัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่เทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์หรือ 0.03% ปิดที่ 1,784.3 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 6.1 เซนต์หรือ 0.26% ปิดที่ 23.496 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดลบ 11 เซนต์กังวลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่ง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (24 พ.ย.) หลังมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ขณะที่นักลงทุนจับตาท่าทีของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสในการตอบโต้มาตรการของสหรัฐและประเทศพันธมิตรที่ตัดสินใจระบายน้ำมันดิบจากคลังสำรองทั้งนี้สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 11 เซนต์หรือ 0.1% ปิดที่ 78.39 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 6 เซนต์หรือ 0.1% ปิดที่ 82.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดลบ 9.42 จุดผิดหวังผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (24 พ.ย.) หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ซึ่งรวมถึงนอร์ดสตรอมและแก๊ปอิงค์เปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดอย่างไรก็ดีดัชนีS&P500 และNasdaqปิดในแดนบวกโดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มเทคโนโลยีดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,804.38 จุดลดลง 9.42 จุดหรือ -0.03%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,701.46 จุดเพิ่มขึ้น 10.76 จุดหรือ +0.23% และดัชนีNasdaqปิดที่ 15,845.23 จุดเพิ่มขึ้น 70.09 จุดหรือ +0.44%
WHO เตือนยอดตายโควิดในยุโรป-เอเชียกลางจ่อทะลุ2.2ล้านรายภายในมี.ค.ปีหน้า
องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19ในภูมิภาคยุโรปและเอเชียกลางอาจจะพุ่งแตะระดับมากกว่า2.2ล้านรายภายในเดือนมี.ค.ปีหน้าขณะที่หลายประเทศยังคงต่อสู้กับการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นของไวรัสโควิด-19สายพันธ์เดลตาสำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่าสำนักงานของWHO ประจำยุโรปได้เผยแพร่ตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดเมื่อวานนี้ (23พ.ย.) ในช่วงเวลาที่53ประเทศของภูมิภาคดังกล่าวมียอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19ทะลุ1.5ล้านรายแล้วโดยขณะนี้ไวรัสเดลตาได้กลายมาเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากทั้งในยุโรปและเอเชียกลางซึ่งปัจจุบันภูมิภาคแห่งนี้มียอดผู้เสียชีวิตรายวันเกือบ4,200รายเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันณสิ้นเดือนก.ย. ทั้งนี้สำนักงานWHO ประจำยุโรปตั้งอยู่ในเมืองโคเปนเฮเกนประเทศเดนมาร์กซึ่งทำภารกิจที่ครอบคลุมยุโรปรวมทั้งอิสราเอล, ตุรกีและประเทศในเอเชียกลางซึ่งได้แก่คาซัคสถาน, คีร์กีซสถาน, ทาจิกิสสถาน, เติร์กเมนิสถานและอุซเบกิสถานดร.ฮานส์เฮนรีคลูจผู้อำนวยการWHO ประจำภูมิภาคยุโรปกล่าวว่า “การที่จะใช้ชีวิตร่วมกับไวรัสและดำเนินชีวิตประจำวันต่อไปให้ได้นั้นเราจำเป็นต้องฉีดวัคซีนด้วยซึ่งหมายความว่าต้องฉีดวัคซีนตามโดสมาตรฐานและต้องฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์เมื่อรัฐบาลกำหนดนอกจากนี้ยังต้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันให้เป็นวิถีชีวิตปกติ”
“เฟาชี” แนะชาวมะกันที่ได้วัคซีนครบโดสแล้วควรฉีดเข็มบูสเตอร์ด้วย
นายแพทย์แอนโทนีเฟาชีแพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19ของทำเนียบขาวกล่าวว่าชาวอเมริกันที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ครบโดสแล้วควรฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ด้วยพร้อมกับกล่าวว่าในวันข้างหน้าวัคซีนบูสเตอร์จะกลายเป็นมาตรฐานของสหรัฐที่กำหนดว่าผู้ได้รับเข็มบูสเตอร์เท่านั้นที่ถือว่าฉีดวัคซีนครบโดสแล้วสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่านายแพทย์เฟาชีและผู้เชี่ยวชาญด้านโรคอีกหลายคนคาดการณ์ว่าโรคโควิด-19จะเปลี่ยนผ่านจากโรคที่แพร่ระบาดทั่วสหรัฐไปเป็นโรคประจำถิ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้าซึ่งหมายความว่าโควิด-19จะยังคงแพร่กระจายในระดับต่ำลงส่งผลกระทบน้อยลงในวงแคบลงแต่ก็ยังคงมีการระบาดอย่างมีนัยสำคัญในปีต่อๆไปอย่างไรก็ดีผู้เชี่ยวชาญบางคนมีความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐที่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาโดยการติดเชื้อมีแนวโน้มว่าจะเร่งตัวขึ้นเมื่อชาวอเมริกันเดินทางและรวมกลุ่มกันมากขึ้นเพื่อร่วมงานเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐในสัปดาห์นี้ตลอดจนเทศกาลวันหยุดอื่นๆที่กำลังจะมาถึง “เราต้องการให้คนที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วไปฉีดเข็มบูสเตอร์ให้ได้มากที่สุด” นายแพทย์เฟาชีกล่าวให้สัมภาษณ์สำหรับการประชุมReuters Next
ค่าเงินลีราของตุรกีร่วง3%กังวลเงินเฟ้อพุ่ง-เศรษฐกิจชะลอตัว
ค่าเงินลีราของตุรกีร่วงลงอีกครั้งใกล้แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นรวมทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจณเวลา14.03น.ตามเวลาไทยค่าเงินลีราดิ่งลง3%แตะที่13.1500ลีราต่อดอลลาร์ก่อนที่จะไต่ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ13.05ลีราต่อดอลลาร์หลังจากเมื่อวานนี้ร่วงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่13.45ลีราต่อดอลลาร์ค่าเงินลีราดิ่งลงอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ทรุดตัวลง15%เมื่อวานนี้ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีเรเซปตอยยิบเออร์โดกันผู้นำตุรกีได้ออกมาปกป้องการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของรัฐบาลแม้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นเกือบ20%ก็ตามนอกจากนี้ค่าเงินลีรายังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ซึ่งดอลลาร์ได้ดีดตัวขึ้นขานรับการที่ประธานาธิบดีโจไบเดนตัดสินใจเสนอชื่อนายเจอโรมพาวเวลให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสมัยที่2
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.