- Advertisement -

ทองปรับขึ้นในรอบเกือบ 18 เดือน จากความรุนแรงในยูเครน

จับตาการประชุมฉุกเฉินของนาโตในวันนี้

แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวขึ้นในกรอบแคบลง

• ราคาทองคำ Spot  เมื่อวานที่ผ่านมามีความผันผวนอย่างมาก เนื่องจากราคาทองคำปรับตัวขึ้นในระดับสูงสุดบริเวณ 1,974 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 18 เดือน จากที่รัสเซียได้บุกโจมตียูเครนทั้งทางบก ทะเล และอากาศ ซึ่งนับว่าเป็นเหตุการณ์รุกรานประเทศครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างไรก็ตาม ช่วงกลางคืนราคาทองคำเกิดแรงเทขายแรงออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากนาโตยืนยันจะไม่ส่งกำลังทหารเข้าไปในยูเครน เนื่องจากยูเครนไม่ได้เป็นสมาชิกนาโต โดยวันนี้นาโตจะทำการประชุมฉุกเฉินผ่านระบบออนไลน์ โดยเป็นการประชุมของผู้นำชาติสมาชิกนาโตจำนวน 30 ประเทศ ซึ่งการประชุมครั้งนี้นับว่าเป็นการประชุมที่นักลงทุนต้องจับตามอง ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมจากเมื่อวาน
• คืนนี้สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนม.ค. ตลาดคาดว่าเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน จากเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบรายปี จากเพิ่มขึ้น 4.9% เมื่อเทียบรายปี นอกจากนี้สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค. ตลาดคาดว่าเพิ่มขึ้น 1.1% จากที่ลดลง 0.7% ในเดือนธ.ค. และยอดทำสัญญาขายบ้านรอปิดการขายเดือนม.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.5% จากที่ลดลง 3.8% ในเดือนธ.ค.
• แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวขึ้นในกรอบแคบลง โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,890 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 1,880 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,950 ดอลลาร์ และ 1,975 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

- Advertisement -

ราคาทองแท่ง 96.5%

โกลด์ฟิวเจอร์ส

- Advertisement -

แนะนำเข้าซื้อราคาทอง Spot ที่ 1,890 ดอลลาร์ (GF 29,180บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,880 ดอลลาร์ (GF 28,850บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

แนะนำเข้าซื้อราคา GOH22 ที่ 1,892 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,882 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ค่าเงินบาทเมื่อวานนี้กลับมาอ่อนค่าทิศทางเดียวกับตลาดโลก ทั้งนี้นักลงทุนมีความกังวลสถานการณ์ในยูเครนที่มีความรุนแรงมากขึ้น ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทคาดว่าอ่อนค่า สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.65 มีแนวรับที่ 32.40 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 33.08 บาท/ดอลลาร์

News

เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นในกรุงเคียฟ หลัง “ปูติน” สั่งเปิดฉากปฏิบัติการทหาร

          สำนักข่าวเอ็นบีซีและซีเอ็นเอ็นรายงานตรงกันว่า เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่นานหลังจากที่ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศเปิดฉากปฏิบัติการทหารในดอนบาส    ด้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้จัดการประชุมฉุกเฉินขึ้น เพื่อหารือถึงสถานการณ์ตึงเครียด    อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวระบุว่า ผู้นำรัสเซียไม่ได้ต้องการที่จะเข้ายึดครองยูเครน พร้อมเรียกร้องให้กองกำลังยูเครนวางอาวุธและถอยทัพกลับไป และประกาศด้วยว่า รัสเซียจะไม่ยอมปล่อยให้ยูเครนครอบครองอาวุธนิวเคลียร์    เมื่อคืนวานนี้ กระทรวงการต่างประเทศยูเครนออกแถลงการณ์เตือนให้ชาวยูเครนรีบเดินทางออกจากรัสเซียโดยทันที และเตือนพลเมืองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังรัสเซีย     แถลงการณ์ระบุว่า “ความก้าวร้าวที่เพิ่มมากขึ้นของรัสเซียต่อยูเครนอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อการให้ความช่วยเหลือจากสถานกงสุลในสหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งเราขอย้ำว่า การละเลยคำแนะนำเหล่านี้อาจสร้างความซับซ้อนต่อการให้ความคุ้มครองอย่างเหมาะสมต่อพลเมืองชาวยูเครนในสหพันธรัฐรัสเซีย”

สหรัฐเผยทหารรัสเซียราว 80% อยู่ในตำแหน่งเตรียมบุกยูเครน

          สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียได้สั่งการให้กองกำลังของรัสเซียราว 80% ที่อยู่ตามแนวชายแดนยูเครนเข้าประจำการในตำแหน่งเตรียมบุกโจมตีเต็มรูปแบบ โดยกองกำลังบางส่วนอยู่ห่างจากชายแดนยูเครนไปเพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น   “พวกเขาเตรียมพร้อมเต็มที่แล้ว” แหล่งข่าวที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนระบุ    ทั้งนี้ สหรัฐประเมินว่าขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ทหารรัสเซียกว่า 150,000 คนประจำการอยู่ตามแนวชายแดนยูเครน   การเปิดเผยดังของแหล่งข่าวดังกล่าวยิ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลว่ารัสเซียจะส่งทหารเข้ารุกรานอยู่เครน สวนทางกับความคาดหวังของรัฐบาลสหรัฐที่ว่า ปธน.ปูตินจะหยุดเคลื่อนไหวหลังรัสเซียประกาศรับรองเอกราชแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ของยูเครนเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้    “รัสเซียได้เตรียมพร้อมจนถึงจุดที่เริ่มบุกโจมตีได้ทันทีที่ได้รับคำสั่ง” แหล่งข่าวระบุ     อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวมิได้เปิดเผยหลักฐานสนับสนุนข้อมูลนี้

ปธ.เฟดซานฟรานซิสโกหนุนขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้ง สกัดเงินเฟ้อสหรัฐ

          นางแมรี ดาลี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโกคาดว่า เฟดอาจจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกอย่างน้อย 4 ครั้งในปีนี้ เพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อไม่ให้พุ่งสูงขึ้นมากจนเกินไป   “เรามีความเห็นโดยรวมตรงกันว่า อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงเกินไป แต่ดอกเบี้ยกลับต่ำเกินไป” นางดาลีกล่าวในที่ประชุม Los Angeles World Affairs Council & Town Hall    นางดาลีกล่าวว่า “เราจำเป็นต้องเร่งปรับอัตราดอกเบี้ยให้เร็วขึ้นอีกเล็กน้อย นั่นแปลว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมแต่ละครั้งเท่านั้นยังไม่พอ และการรอต่อไปในปีนี้แล้วค่อยเริ่มปรับลดงบดุลวงเงิน 9 ล้านล้านดอลลาร์ก็ยังไม่ทันการ”    ทั้งนี้ การออกมาหนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งของนางดาลีซึ่งเป็นท่าทีในเชิงรุกนั้น แตกต่างไปจากการแสดงความเห็นครั้งที่ผ่านมา     นอกจากนี้ นางดาลียังกล่าวว่า เฟดอาจต้องพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าปกติที่ระดับ 0.50% เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ แม้ว่าตอนนี้ นางดาลีจะยังหนุนให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ก็ตาม   รายงานยังระบุว่า แม้ว่านางดาลีจะเห็นด้วยกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 4 ครั้ง แต่ก็มีความเป็นไปได้มากว่าเฟดจะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่านั้น เพื่อให้ดีมานด์สอดคล้องกับซัพพลาย เว้นแต่ว่าดีมานด์ฝั่งผู้บริโภคจะลดลงหรือซัพพลายเชนจะกลับมาฟื้นตัวเร็วกว่าที่เธอคาดไว้

ขอขอบคุณ : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

- Advertisement -