ทองปิดบวกติดต่อกันวันที่ 2 จากความตึงเครียดในยูเครน
คืนนี้ติดตามการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศ ของ ADP
ราคาทองคำระยะสั้นอาจเคลื่อนไหว Sideways
- ราคาทองคำ Spot เมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ จากสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครน โดยรัฐบาลสหรัฐกำลังหารือกับชาติพันธมิตรในยุโรปตะวันออกเกี่ยวกับการส่งทหารอเมริกันไปประจำการในพื้นที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาติพันธมิตรในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นของราคาทองคำไม่มากนัก เนื่องจากปริมาณซื้อขายยังเบาบาง ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ซื้อทองคำสุทธิ 0.29 ตันจากเมื่อวานนี้
- คืนนี้สหรัฐเปิดเผยการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนม.ค. ของ ADP ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 175,000 ตำแหน่ง จาก 807,000 ตำแหน่ง ในเดือนธ.ค.
- แนวโน้มราคาทองคำ spot คาดว่ามีทิศทางเป็นขาลง อย่างไรก็ตามในสัปดาห์นี้อาจมีปริมาณการซื้อขายทองคำที่เบาบางลง เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีนของประเทศจีน ส่งผลให้ราคาทองคำระยะสั้นอาจเคลื่อนไหว Sideways โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,780 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 1,770 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,810 ดอลลาร์ และ 1,820 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | Support | Resistance |
1,800.38 | 1,780/1,770 | 1,810/1,820 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | Support | Resistance |
28,400 | 28,200/28,000 | 28,500/28,600 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | Support | Resistance |
28,460 | 28,270/28,120 | 28,630/28,720 |
แนะนำเปิดสถานะขายบริเวณราคาทอง Spot ที่ 1,810 ดอลลาร์ (GF 28,630 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,820ดอลลาร์ (GF 28,720 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | Support | Resistance |
1,802.00 | 1,782/1,772 | 1,812/1,822 |
แนะนำเปิดสถานะขายบริเวณราคา GOH22 ที่ 1,812 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,822 ดอลลาร์
ค่าเงิน
ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่า ขณะที่ตลาดต่างประเทศหลายแห่งปิดทำการ ทั้งนี้ระยะสั้นแนวโน้มค่าเงินบาทแข็งค่าได้ต่อ สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.65 มีแนวรับที่ 33 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 33.42 บาท/ดอลลาร์
News
“โนวาแวกซ์” ยื่นขอใช้วัคซีนโควิดเป็นกรณีฉุกเฉินในสหรัฐ ชี้ป้องกันได้ 90%
บริษัทโนวาแวกซ์ (Novavax) ได้ยื่นขออนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่เป็นกรณีฉุกเฉิน หลังจากที่ได้เลื่อนการยื่นขออนุมัติเป็นเวลานานหลายเดือน อันเนื่องมาจากปัญหาด้านการพัฒนาและการผลิต โนวาแวกซ์ระบุในแถลงการณ์ว่า การขออนุมัติใช้วัคซีนเป็นกรณีฉุกเฉินในครั้งนี้ พิจารณาบนพื้นฐานของข้อมูลที่ทางบริษัทได้ยื่นให้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐในเดือนที่แล้ว และผลจากการทดลองขั้นสุดท้ายในสหรัฐ, เม็กซิโก และอังกฤษ ซึ่งบ่งชี้ว่า วัคซีนของโนวาแวกซ์มีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 ได้ประมาณ 90% “เราเชื่อว่าวัคซีนของเราจะเป็นทางเลือกที่แตกต่างไปจากวัคซีนของบริษัทอื่น โดยสามารถเป็นหนึ่งในทางเลือกวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อที่จะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19” นายสแตนลีย์ เอิร์ค ซีอีโอของโนวาแวกซ์กล่าว ทั้งนี้ โนวาแวกซ์เป็นวัคซีนชนิดโปรตีนเบส ซึ่งแตกต่างจากวัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทค, โมเดอร์นา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่ต่างก็ใช้เทคโนโลยี mRNA
สหรัฐพิจารณาส่งทหารสมทบกองกำลังนาโตเพิ่มขึ้นในยุโรปตะวันออก
กระทรวงกลาโหมสหรัฐ (เพนตากอน) เปิดเผยว่า ขณะนี้สหรัฐกำลังหารือกับชาติพันธมิตรในยุโรปตะวันออกเกี่ยวกับการส่งทหารอเมริกันไปประจำการในพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับพันธมิตรในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) ขณะเผชิญหน้ากับการสะสมกำลังพลของรัสเซียตามแนวชายแดนใกล้ยูเครน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโจ ไบเดนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 ม.ค.) ซึ่งระบุว่าอาจมีการส่งทหารสหรัฐไปยังยุโรปตะวันออกและประเทศสมาชิกนาโตเร็ว ๆ นี้ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากองทัพสหรัฐได้สั่งให้ทหารจำนวน 8,500 คนเตรียมความพร้อมเพื่อไปประจำการที่ยุโรปในฐานะส่วนหนึ่งของกองกำลังสมทบนาโต หากนาโตมีการขอความช่วยเหลือจากสหรัฐ อย่างไรก็ตาม รัสเซียยังคงยืนกรานว่าไม่มีแผนที่จะบุกรุกยูเครน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แม้ว่าก่อนหน้านี้รัสเซียจะเป็นฝ่ายจุดประเด็นพิพาทในปัจจุบันด้วยการส่งทหารเข้าประชิดชายแดนยูเครนรอบด้าน ซึ่งทำให้ชาติตะวันตกออกมาเคลื่อนไหวตอบโต้ แต่ขณะนี้รัสเซียกลับอ้างว่าชาติตะวันตกเป็นฝ่ายคุกคามรัสเซียก่อน รัสเซียซึ่งเคยใช้กำลังทหารผนวกคาบสมุทรไครเมียในปี 2557 และได้ให้การสนับสนุนกับกลุ่มกบฏในภาคตะวันออกของยูเครน เรียกร้องให้ชาติตะวันตกมีการรับประกันความปลอดภัย เช่น การไม่รวมยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต
FDA อนุมัติการใช้งานวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของโมเดอร์นาอย่างเต็มรูปแบบ
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐได้อนุมัติการใช้งานวัคซีนสไปค์แวกซ์ (Spikevax) ของโมเดอร์นา เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ทั้งนี้ สำนักข่าวซินหัวได้เปิดเผยถ้อยแถลงของ FDA ว่า วัคซีนสไปค์แวกซ์มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานอันเข้มงวดของ FDA ทั้งในด้านความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และคุณภาพการผลิต “แม้ว่าประชาชนหลายล้านคนได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างปลอดภัยไปแล้ว แต่การอนุมัติวัคซีนของ FDA อาจเพิ่มความเชื่อมั่นในการเข้ารับวัคซีนให้กับประชาชนบางส่วนได้ โดยการอนุมัติวัคซีนครั้งนี้หนุนให้เราเข้าใกล้การเปลี่ยนแปลงแนวทางของโรคระบาดในสหรัฐไปอีกขั้นหนึ่ง” นางเจเน็ต วูดค็อก รักษาการกรรมาธิการของ FDA กล่าว วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของโมเดอร์นาเป็นวัคซีนชนิดที่ 2 ในสหรัฐที่ได้รับการอนุมัติการใช้งานเต็มรูปแบบจาก FDA หลังการอนุมัติวัคซีนโคเมอร์เนตี (Comirnaty) ของไฟเซอร์-ไบออนเทคสำหรับการใช้งานเต็มรูปแบบในเด็กอายุ 16 ปีขึ้นไปเมื่อเดือนส.ค.ปี 2564 สำหรับวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นานั้นได้ถูกนำมาฉีดให้ประชาชนในสหรัฐผ่านการอนุมัติใช้งานในกรณีฉุกเฉินสำหรับประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปโดย FDA ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.ปี 2563
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.