ทองปิดบวกจากการเจรจายูเครน-รัสเซียล้มเหลว
คืนนี้สหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.
แนวโน้มราคาทองคำคาดระยะสั้นปรับตัวลงในกรอบที่แคบลง
- ราคาทองคำ Spot เมื่อวานนี้ในช่วงเช้าราคาทองคำมีแรงเทขายออกมาต่อเนื่อง ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาตั้งแต่ช่วงสาย โดยเฉพาะช่วงเย็นจนถึงหัวค่ำ ซึ่งราคาทองคำปรับขึ้นแรงอีกครั้งสู่ระดับ 2,008.79 ดอลลาร์ เนื่องจากการเจรจาระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่จัดขึ้นในตุรกีประสบความล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว และรัสเซียต้องการให้ยูเครนยอมแพ้ สร้างความกังวลให้ตลาดอีกครั้ง ขณะที่รัสเซียไม่มีความกังวลที่สหรัฐและชาติตะวันตกได้คว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย เนื่องจากยังมีอีกหลายประเทศที่ต้องการซื้อพลังงานจากรัสเซีย ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ขายทองคำสุทธิ 1.75 ตันจากเมื่อวานนี้
- คืนนี้สหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ของม.มิชิแกน ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 61.4 จาก 62.8 ในเดือนก.พ.
- แนวโน้มราคาทองคำคาดระยะสั้นปรับตัวลงในกรอบที่แคบลง อย่างไรก็ตามราคาทองคำมีความผันผวนอย่างมากตามสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,970 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 1,960 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,010 ดอลลาร์ และ 2,030 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | Support | Resistance |
1,997.86 | 1,970/1,960 | 2,010/2,030 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | Support | Resistance |
31,100 | 30,850/30,650 | 31,500/31,650 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | Support | Resistance |
31,420 | 30,980/30,780 | 31,660/31,870 |
สำหรับการเข้าซื้อราคาทอง Spot รอบใหม่ สามารถเข้าซื้อเมื่อราคา spot ปรับลงมาบริเวณ ที่ 1,970 ดอลลาร์ (GF 30,980 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,960 ดอลลาร์ (GF 30,780 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | Support | Resistance |
1,996.0 | 1,972/1,962 | 2,012/2,032 |
สำหรับการเข้าซื้อราคา GOH22 รอบใหม่ สามารถเข้าซื้อเมื่อราคา GOH22 ปรับลงมาบริเวณ ที่ 1,972 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,962 ดอลลาร์
ค่าเงิน
ค่าเงินบาทเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวใกล้บริเวณ 33 บาท/ดอลลาร์ ทั้งนี้ตลาดเริ่มเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทคาดว่าอ่อนค่า สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.65 มีแนวรับที่ 32.75 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 33.45 บาท/ดอลลาร์
News
เกาหลีเหนือประกาศพัฒนาดาวเทียมจารกรรม หวังล้วงข้อมูลกองทัพสหรัฐ
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือรายงานในวันนี้ว่า นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือประกาศพัฒนาดาวเทียมจารกรรมหรือดาวเทียมสอดแนม เพื่อล้วงข้อมูลกิจกรรมทางทหารของสหรัฐและเหล่าชาติพันธมิตร อาทิ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ สำนักข่าวเกียวโดอ้างอิงรายงานของเคซีเอ็นเอว่า เกาหลีเหนือได้ปล่อยดาวเทียมจารกรรมดวงหนึ่งเมื่อวันที่ 27 ก.พ.และปล่อยอีกดวงในวันเสาร์ที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยนายคิมประกาศว่า เกาหลีเหนือจะเพิ่มขีดความสามารถในการสอดแนมและรวบรวมข้อมูลผ่านการปฏิบัติการของระบบดาวเทียม เคซีเอ็นเอรายงานว่า ดาวเทียมดังกล่าวจะรวบรวมข้อมูลกิจกรรมทางทหารที่มุ่งร้ายต่อเกาหลีเหนือแบบเรียลไทม์ของกองทัพสหรัฐและกองกำลังในเกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และแปซิฟิก” การพัฒนาดาวเทียมถือเป็น “งานที่ดำเนินการเพื่อปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ อีกทั้งยังเป็นการใช้สิทธิ์อันชอบธรรมในการป้องกันตัวและเพิ่มเกียรติภูมิของประเทศ” นายคิมกล่าว สำหรับรายงานเรื่องพัฒนาดาวเทียมจารกรรมนี้มีขึ้นในช่วงหนึ่งวันหลังจากนายยุน ซอกยอลจากพรรคพลังประชาชนของเกาหลีใต้คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี
สหรัฐเตือนรัสเซียอาจใช้อาวุธเคมี-ชีวภาพในการทำสงครามกับยูเครน
รัฐบาลสหรัฐประกาศเตือนว่า รัสเซียอาจใช้อาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพในการทำสงครามกับยูเครน ขณะปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัสเซียที่ว่า มีการพัฒนาอาวุธชีวภาพอย่างผิดกฎหมายในยูเครน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกมากล่าวโจมตีว่า ยูเครนลักลอบทดลองอาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพในดินแดนของตนเอง แม้คำกล่าวอ้างดังกล่าวจะยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดก็ตาม ขณะที่นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า คำกล่าวอ้างของรัสเซียนั้น “น่าขัน” และมองว่าการป้ายความผิดดังกล่าวอาจเป็นเพราะรัสเซียต้องการหาข้ออ้างเพื่อปูทางสู่การใช้อาวุธเคมีในดินแดนของยูเครน “เห็นได้ชัดว่านี่เป็นอุบายของรัสเซียที่จะพยายามหาเหตุผลมาโจมตียูเครนโดยไตร่ตรองล่วงหน้ามาแล้ว อีกทั้งยังไร้เหตุผล และไม่ยุติธรรม” นางซากีทวีตข้อความเมื่อวานนี้ (9 มี.ค.) “รัสเซียกล่าวอ้างถ้อยคำที่เป็นเท็จ และดูเหมือนว่าจีนได้สนับสนุนการชวนเชื่อนี้แล้ว เราทุกคนควรระมัดระวังรัสเซียซึ่งอาจใช้อาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพในการทำสงครามกับยูเครน หรืออาจใช้อาวุธเหล่านี้เพื่อสร้างสถานการณ์” อนึ่ง ประชาคมโลกมองว่า รัสเซียเคยใช้อาวุธเคมีมาก่อนแล้ว เมื่อครั้งมีการลอบสังหารศัตรูของปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน อย่างนายอเล็กเซย์ นาวัลนี และนายเซอร์เกย์ สกริปาล อดีตสายลับเมื่อหลายปีก่อน นอกจากนี้ รัสเซียยังสนับสนุนรัฐบาลของนายอัสซาดในซีเรีย ซึ่งเคยใช้อาวุธเคมีกับประชาชนในสงครามกลางเมืองที่กินเวลายาวนานนับสิบปี
“ไบเดน” ลงนามสั่งหน่วยงานรัฐประเมินข้อดีข้อเสียคริปโทฯ ปูทางออกดอลล์ดิจิทัล
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้ลงนามในคำสั่งบริหาร เพื่อสั่งการให้หน่วยงานทั้งหมดของรัฐบาลสหรัฐทำการประเมินความเสี่ยงและประโยชน์ของสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซี พร้อมกับสั่งให้เร่งการวิจัยและพัฒนาสกุลเงินดอลลาร์ดิจิทัล สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า คำสั่งดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่การกำหนดให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐทำการศึกษา 6 ประเด็นซึ่งได้แก่ การคุ้มครองผู้บริโภคและนักลงทุน, เสถียรภาพด้านการเงิน, การทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย, ความสามารถด้านการแข่งขันของสหรัฐในตลาดโลก, โอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงิน และนวัตกรรมที่มีความรับผิดชอบ ประเด็นการคุ้มครองผู้บริโภคถือเป็นส่วนสำคัญของคำสั่งดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมานั้น มีนักลงทุนจำนวนมากถูกหลอกลวงให้ลงทุนในคริปโทฯ รวมทั้งการสูญเสียเงินจำนวนมากจากการที่แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทฯ ถูกโจมตีทางไซเบอร์
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.