ทองคำปรับลดลงจากความคืบหน้าการเจรจารัสเซีย-ยูเครน
คืนนี้สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ.
แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับลดลงได้ต่อ
- ราคาทองคำ Spot เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลดลงแรงจากระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำ จากสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ผ่อนคลายลง โดยการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนเริ่มมีความคืบหน้ามากขึ้น และยูเครนได้ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ขายทองคำสุทธิ 4.06 ตันจากเมื่อวานนี้
- คืนนี้สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ.ซึ่งตลาดคาดว่าจะเพิ่ม 0.8% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน จากเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 7.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี จากเพิ่มขึ้น 7.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5,000 ราย สู่ระดับ 220,000 ราย
- แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับลดลงได้ต่อ โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,970 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 1,955 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,000 ดอลลาร์ และ 2,015 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | Support | Resistance |
1,990.30 | 1,970/1,955 | 2,000/2,015 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | Support | Resistance |
31,400 | 30,600/30,400 | 31,400/31,600 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | Support | Resistance |
31,250 | 30,780/30,600 | 31,530/31,870 |
สำหรับการเข้าซื้อราคาทอง Spot รอบใหม่ สามารถเข้าซื้อเมื่อราคา spot ปรับลงมาบริเวณ ที่ 1,955 ดอลลาร์ (GF 30,600 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,950 ดอลลาร์ (GF 30,520 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | Support | Resistance |
1,990.90 | 1,972/1,957 | 2,002/2,017 |
สำหรับการเข้าซื้อราคา GOH22 รอบใหม่ สามารถเข้าซื้อเมื่อราคา GOH22 ปรับลงมาบริเวณ ที่ 1,957 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,952 ดอลลาร์
ค่าเงิน
ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าเล็กน้อย หลังจากที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องหลายวันติดต่อกัน อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทยังคงมีความผันผวนต่อสถานกาณ์ยูเครน-รัสเซีย และยังคาดว่าแนวโน้มค่าเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าได้ต่อ สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.65 มีแนวรับที่ 32.75 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 33.45 บาท/ดอลลาร์
News
ผู้ค้าทองชี้ราคาวันนี้พุ่งพรวดทำนิวไฮจากวิกฤตยูเครน หากยืดเยื้อมีโอกาสเห็นแตะ 33,000
นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ชี้สถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่รายวัน โดยมองแนวต้านราคาขายปลีกทองคำในประเทศสำหรับทองคำแท่งไว้ที่บาททองคำละ 33,000 บาท “ราคาทำนิวไฮทุกวันหากสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนยังยืดเยื้อก็มีโอกาสที่จะขยับขึ้นไปเรื่อยๆ มองแนวต้านไว้ที่ 33,000 บาท” นายจิตติ กล่าวกับ “อินโฟเควสท์” นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ถึงแม้จะมีความเจรจาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาหลายรอบแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า แต่หากความขัดแย้งคลี่คลายลงก็จะส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวร่วงลงแรงเช่นกัน ซึ่งนักลงทุนต้องเพิ่มความระมัดระวังเนื่องจากมีความผันผวนสูง ส่วนสถานการณ์ซื้อขายทองคำในประเทศขณะนี้มีประชาชนนำทองรูปพรรณที่เก็บสะสมไว้ออกมาขายให้กับร้านทองเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจทำให้จำนวนเงินสดที่ร้านทองสำรองไว้มีปริมาณไม่เพียงพอจนต้องออกเป็นเช็คให้ลูกค้าแทน แต่ร้านทองไม่ได้มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง แต่การเบิกเงินสดจำนวนมากต้องแจ้งธนาคารล่วงหน้า 1 วัน
สหรัฐเล็งผนึกกำลังพันธมิตรระบายน้ำมันจากคลังสำรองเพิ่มขึ้น
นายอามอส โฮคสไตน์ ที่ปรึกษาระดับอาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐและประเทศต่าง ๆ จะพิจารณาระบายน้ำมันจากคลังสำรองเพิ่มเติม หากมีความจำเป็น ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยถ้อยแถลงของนายโฮคสไตน์ว่า คณะบริหารภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดนมุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบของต้นทุนเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังสหรัฐและพันธมิตรออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียโทษฐานรัสเซียรุกรานยูเครน แต่กล่าวเสริมว่าไม่ง่ายนัก หากจะทดแทนการส่งออกน้ำมันดิบของรัสเซียทั้งหมด สหรัฐและบรรดาประเทศสมาชิกสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้เห็นพ้องต้องกันว่า จะระบายน้ำมันดิบในคลังสำรอง 60 ล้านบาร์เรล เพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น “หากเราจำเป็นต้องผนึกกำลังกับพันธมิตรเพื่อดำเนินการบางสิ่งอีกครั้ง เราก็จะทำ” นายโฮคสไตน์กล่าวที่การประชุมพลังงาน CERAWeek ในเมืองฮิวสตัน เบื้องต้นนั้น ทำเนียบขาวไม่ต้องการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันและก๊าซของรัสเซียโดยตรง เนื่องจากกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคทั่วโลก อย่างไรก็ดี ผู้ซื้อพลังงานรัสเซียจำนวนมากได้ออกมาตรการคว่ำบาตรเอง โดยหลีกเลี่ยงการซื้อน้ำมันของรัสเซียเพราะเกิดความไม่พอใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน นายโฮคสไตน์ประเมินว่ามีน้ำมันตกค้างอยู่ประมาณ 3 ล้านบาร์เรลในขณะนี้ เนื่องจากผู้ซื้อในยุโรปและสถานที่อื่น ๆ ปฏิเสธที่จะซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
สหรัฐเผยไม่กดดันพันธมิตรให้ร่วมแบนนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย
นางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐจะไม่กดดันให้เหล่าพันธมิตรออกคำสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันและพลังงานของรัสเซียเช่นเดียวกันกับสหรัฐ ทั้งนี้ นางแกรนโฮล์มให้สัมภาษณ์ว่า “สหรัฐไม่มีความจำเป็นต้องพึ่งพาน้ำมันรัสเซียมากนักและเราไม่ได้พึ่งพาก๊าซของรัสเซียแม้แต่น้อย แต่เราทราบดีว่าพันธมิตรทั่วโลกของเราอาจไม่ได้อยู่ในสถานะเดียวกัน ดังนั้น เราจึงไม่ขอให้พวกเขาดำเนินการเช่นเดียวกับเรา” นอกจากนี้ นางแกรนโฮล์มระบุด้วยว่า สหรัฐได้ทำการหารือกับประเทศต่าง ๆ เรื่องการระบายน้ำมันจากคลังสำรองทั่วโลกเพิ่มเติม “เราอยู่ระหว่างการหารือกับพันธมิตรของเรา อย่างที่ทุกท่านทราบ เราเพิ่งระบายน้ำมันจากคลังสำรอง 60 ล้านบาร์เรลภายใต้แผนการที่ดำเนินการร่วมกับสำนักงานพลังงานสากล (IEA)” นางแกรนโฮล์มกล่าว ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ประกาศห้ามนำเข้าน้ำมันและพลังงานประเภทอื่น ๆ จากรัสเซียโดยมีผลบังคับใช้ทันที เพื่อเป็นการตอบโต้กรณีรัสเซียรุกรานยูเครน
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.