หลังจากที่ราคาทองคำได้ทะลุแนวต้านที่แข็งแกร่งที่ระดับ 1,850 ดอลลาร์ ได้ โดยได้แรงหนุนจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่เร่งตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ทศวรรษ ทำให้ราคาทองคำพร้อมที่จะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้
Frank Cholly นักยุทธศาสตร์การตลาดอาวุโสของ RJO Futures กล่าวกับ Kitco News ว่าทั้งหมดมันเป็นเรื่องของเงินเฟ้อ ตลาดเริ่มยอมรับความจริงที่ว่า อัตราเงินเฟ้อจะยาวนานขึ้น ต้องใช้เวลาหลายปีในการแก้ไขปัญหาห่วงโซ่อุปทาน อันเนื่องมาจากการระบาดใหญ่ของ โควิด-19 โดยมองว่า กรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำขณะนี้อยู่ที่ 1,835-1,875 ดอลลาร์
Frank Cholly กล่าวว่า หากราคาทองคำไม่หลุดแนวรับดังกล่าว ถือเป็นแนวโน้มที่ดี ในทางกลับกัน หากผ่านแนวต้านไปได้ อาจจะเห็นราคาขึ้นไปแตะ 1,900-1,925 ดอลลาร์ และในอนาคตอาจจะเห็น 2,000 ดอลลาร์ ได้ในเร็ว ๆ นี้
Cholly ให้เห็นผลว่า ในทางเทคนิค หากราคาพุ่งทะลุแนวต้าน 1,875 ดอลลาร์ ได้ จะเกิดกำลังซื้อมหาศาล เพราะนักลงทุนจะเริ่มรู้สึกกลัวที่จะพลาดแนวโน้มขาขึ้นของทองคำ
ขณะที่ Sean Lusk ผู้อำนวยการร่วม ของ Walsh Trading กล่าวว่า เส้นทางไปสู่ $1,900 นั้น ชัดเจนมาก หากราคาทองคำลงมาต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ เป็นโอกาสในการซื้อที่ดี และอาจจะเห็นการเพิ่มขึ้นของราคาตั้งแต่ช่วงปลายปีไปจนถึงต้นปีหน้า เพราะธนาคารได้พยายามเข้ามาซื้อทองคำเพื่อใช้ป้องกันในเรื่องเงินเฟ้อ
ด้าน Bart Melek หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ระดับโลกของ TD Securities กล่าวว่า มีโอกาสดีที่ทองคำจะพักหายใจก่อนจะขยับสูงขึ้นในสัปดาห์หน้า โดยทองคำจะต้องเคลื่อนไหวเหนือ 1,875 ดอลลาร์ เพื่อพยายามวิ่งไปที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2020 โดยอาจสูงกว่า 2,000 ดอลลาร์ และอาจจะไปให้ถึงจุดสูงสุดตลอดกาลในช่วงต้นปี 2022
Bart Melek กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้อาจจะได้เห็น จนท.เฟด ออกมาพูดถึงเรื่องการควบคุมนโยบายการเงินมากขึ้น และอาจจะพูดถึงการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งอาจจะทำให้ราคาทองคำปรับลดลงมาได้
อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว ทองคำยังคงสามารถฟื้นตัวได้ เพราะหากเฟดขยับดอกเบี้ยขึ้น 0.25 แต่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ที่ 4.5%
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.