ราคาทองคำ ปิดสัปดาห์ร่วงลง $30 และลดลงต่ำกว่าระดับ $2,000 โดยได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ แต่นักวิเคราะห์มองว่า ยังมีแรงซื้อมากพอที่จะหนุนราคาให้กลับขึ้นไปได้
อย่างไรก็ ดีหลังจากนี้จะเป็นที่ช่วงที่ห้ามเจ้าหน้าที่เฟดให้สัมภาษณ์ จนถึงการประชุม FOMC ในวันที่ 3 พ.ค. โดย CME Fed Watch Tool ระบุ ตลาดคาดว่ามีโอกาส 88% ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25%
Frank Cholly senior market strategist ของ RJO Futures กล่าวกับ Kitco News ว่า
คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนหน้า ซึ่งอาจจะทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหว เหนือหรือต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์ ได้
แต่ส่วนตัวยังมองว่า เป็นขาขึ้นมากกว่า เพราะคาดว่าหลังจากนี้เฟดจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยชั่วคราว และอาจจะปรับลดในปลายปีนี้ นั่นอาจจะสนับสนุนทองคำพุ่งทะลุจุดสูงสุดตลาดกาลได้
โดยสัปดาห์หน้า ตลาดยังเฝ้าดูตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 1 ของสหรัฐฯ และดัชนีราคา PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดต้องการ
โดย Carsten Fritsch analyst ของ Commerzbank กล่าวว่า
ตัวเลขทั้ง 2 อาจกระตุ้นให้ราคาเคลื่อนไหวได้ หลังจากเมื่อวันศุกร์ ข้อมูลภาคการผลิตและบริการของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งส่งผลต่อทองคำ
ขณะที่ Bart Melek global head of commodity strategy ของ TD Securities กล่าวว่า
ระดับแนวรับที่เหมาะสมสำหรับทองคำอยู่ที่ประมาณ 1,962 ดอลลาร์ แต่ราคาสามารถลดลงต่ำกว่านั้นได้ จะขึ้นอยู่กับข้อมูลทางเศรษฐกิจ ในฝั่งแนวต้าน มีแนวโน้มที่ทองคำจะขึ้นไปแตะระดับ 2,100 ดอลลาร์ ในช่วงปลายครึ่งแรกของปี 2566
ขณะที่ Cholly คาดว่า ในสัปดาห์หน้า ทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,975-1,980 ดอลลาร์ แต่แนวโน้มมีโอกาสลงไปถึง 1,965 ดอลลาร์ ในฝั่งกลับกัน หากผ่าน 2,025 ได้ มีโอกาสขึ้นไปแตะ 2,050-2,060 ดอลลาร์
ประเด็นที่น่าติดตามในสัปดาห์หน้า
วันอังคาร : จะมีตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค และยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ
ส่วนวันพุธ : จะมียอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ
ขณะที่วันพฤหัสบดี : จะเป็นตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 1 ของสหรัฐฯ และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ส่วนวันศุกร์ : จะเป็น ดัชนี PCE ของสหรัฐฯ
ที่มา : Kitco.com
Comments are closed.