ชี้ราคาทองคำผ่านระดับ 1,800 ดออลาร์ ได้ไม่ยาก เหตุปัญหาศก.รุมเร้า-ลุ้นทุบสถิติเดิมที่ 1,927 ดอลลาร์ (YLG)
17 เมษายน 2563
YLG คาดราคาทองคำพุ่งทะลุระดับ 1,800 ดอลลาร์ ได้ไม่ยาก หลังปัญหาจาก โควิด-19 ยังไม่จบ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ แนะหากราคาย่อตัวแตะแนวรับซื้อเก็บได้ พร้อมมองเป้าหมายหลัก คือ ทำรายสถิติเดิมที่ ระดับ 1,927 ดอลลาร์
หลังจากที่เมื่อช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุระดับ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ทำให้นักลงทุนของประเทศไทยบางส่วนได้นำทองออกมาขายทำกำไรกันเป็นจำนวนมาก ขณะที่นักวิเคราะห์หลายสำนักของทางฝั่งอเมริกา ได้คาดการณ์ว่าราคาทองคำในอนาคตอาจจะพุ่งไปแตะที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพราะผลกระทบจากการแพร่กระจายของไวรัส โควิด-19 ได้สร้างปัญหาให้กับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง แต่ต้องใช้เวลาอีกนานในการเยียวยา
การคาดการณ์ตัวเลขดังกล่าวก็มีความเป็นไปได้ เพราะหลายฝ่ายก็ออกมาระบุตรงกันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจาก ไวรัส โควิด-19 คงไม่จบง่าย ๆ โดยเฉพาะเรื่องของสภาพเศรษฐกิจ อาจจะต้องมองไปถึงปีหน้ากว่าที่ตลาดหุ้นทั่วโลกจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด
อย่างไรก็ดี อยากให้มองเป้าหมายที่ระดับ 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นด่านแรก ซึ่งในระดับราคาดังกล่าว ก็จะไปสู่จุดสูงสุดเดิมของราคาทองไทยที่ประมาณบาทละ 27,100 บาท จากนั้นก็มองเป้าหมายที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะยาก ก่อนที่จะขยับไปที่ระดับ 1,900 ดออลาร์ และพุ่งไปทำลายจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 1,927 ดอลลาร์
ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด
สำหรับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้ ยังคงมีการแกว่งตัวขึ้น-ลง สลับกัน เมื่อราคาปรับตัวลดลงมาถึงจุดแนวรับ ก็สามารถซื้อเก็บเพื่อลงทุนได้ เพราะมองว่าแนวโน้มราคาทองคำยังคงเพิ่ม ซึ่งจะดูได้จากการเคลื่อนไหวของกองทุน SPDR ที่ยังคงกวาดซื้อทองคำเข้า สต๊อกอย่างต่อเนื่อง เพราะหลายปัจจัยล้วนแต่ส่งผลดีกับราคาทองคำ โดยเฉพาะการประกาศใช้ QE แบบอันลิมิต ของธนาคารกลางสหรัฐ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน กล่าวถึงการส่งออกทองคำว่า ยังคงทำได้ในวงจำกัด เพราะสายการบินส่วนใหญ่ยังไม่เปิดให้บริการ โดยเฉพาะเส้นทางที่จะส่งทองไปโรงหลอม ไม่ว่าจะเป็นประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ เยอรมัน ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะ ซึ่งจะส่งผลต่อการซื้อขายทองคำที่เป็นลักษณะการส่งมอบทองจริง และหากเป็นกลุ่มที่ลงทุนที่เป็นลักษณะของฟิวเจอร์สแล้วยังทำได้อยู่