ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวที่สร้างผลกระทบให้กับตลาดทองคำมาก ก็คือ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้เสนอชื่อ นายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2
ทำให้ตลาดมองว่า เฟดจะเดินหน้าถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงิน และดำเนินนโยบายการเงินเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1990
ปัจจัยดังกล่าว หนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือน ครั้งใหม่ พร้อมกับหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นเข้าใกล้ระดับสูงสุดของปีนี้
ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันให้ราคาทองคำร่วงหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,835 ดอลลาร์ จนกระตุ้นแรงขายตามทางเทคนิคเพิ่มเติม ทำให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,777 ดอลลาร์ ในระหว่างการซื้อขายของวันพุธที่ 24 พ.ย.
คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวกับ GoldAround.com ว่า ประเด็นที่ต้องจับตามองหลังจากนี้ คือ ท่าทางของเฟดที่อาจจะปรับอัตรา (pace) การคุมเข้มนโยบายการเงิน ทั้งในส่วนของการลดวงเงิน QE และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างมากในสหรัฐฯ
ขณะที่ เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายออกมาส่งสัญญาณสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงิน อาทิ นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในผู้ว่าฯ เฟด ที่กล่าวว่า เฟด ควร “เพิ่ม pace” การลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการ QE เป็น 2 เท่า ในเดือน ม.ค. เพื่อให้กระบวนการ taper QE เสร็จสิ้นลงภายในเดือน เม.ย. และมี policy space ในการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน และตอกย้ำแนวโน้มดังกล่าวด้วยรายงานการประชุมเฟดประจำเดือน พ.ย. ที่แสดงให้เห็นว่า เฟดพร้อมเร่งลด QE เพื่อเปิดทางสำหรับการขึ้นดอกเบี้ย
แน่นอนว่า หากเฟดมีการปรับเร่งอัตราการลด QE และเร่งขึ้นดอกเบี้ย ย่อมจะส่งผลหนุนดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จนเป็นปัจจัยกดดันทองคำ อย่างไรก็ดี จากสถิติในอดีตพบว่าราคาทองคำมักจะได้รับแรงกดดันอย่างหนักในช่วงที่ตลาดมีการ Price in และ หลังจากเฟดมีการดำเนินการตามการคาดการณ์ของตลาด ผลกระทบเชิงลบจะค่อย ๆ ลดลง ในทางกลับกัน หากท้ายที่สุดแล้ว เฟดดำเนินนโยบายในเชิง Hawkish น้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาด ย่อมจะกลับมาเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำได้ในที่สุด
คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG
อย่างไรก็ดี YLG แนะนำให้นักลงทุนรอประเมินท่าทีของเฟด จากถ้อยแถลงของประธานเฟดในสัปดาห์หน้า รวมถึงการเปิดเผยตัวเลขสำคัญในตลาดแรงงานของสหรัฐฯ และใช้ท่าทีดังกล่าวเป็นปัจจัยชี้นำทิศทางทองคำในระยะถัดไป
ขอบคุณข้อมูลจาก YLG
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.