- Advertisement -

ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำได้แกว่งตัวผันผวนในเชิงลบในกรอบ 1,811-1,793 ดอลลาร์ต ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เดือนก.ค. 2021 จะเสร็จสิ้น แต่หลังจากการประชุม โดยที่ประชุม มีมติ “คง” อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% และ  คงวงเงิน QE ตามคาด 

ขณะที่ประธานเฟด ยังคงระบุว่า จุดยืนในเชิงผ่อนคลายนโยบายการเงินจะคงอยู่จนกว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะสมบูรณ์  ซึ่งตลาดแรงงานยังห่างไกลจากจุดนั้น  และเศรษฐกิจ “ยังคงห่างไกลจากการหารือเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย” แม้ว่าเฟดจะเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับการลดวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการ QE (QE Tapering) แต่เฟดยังไม่ได้ตัดสินใจใดๆ โดยระยะเวลาที่แน่นอนในการเริ่มต้นลด QE นั้นจะขึ้นอยู่กับข้อมูลทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ

“ถ้อยแถลงดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงท่าทีที่ยัง“ไม่รีบเร่ง”ในการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงิน ทำให้ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลง หนุนให้ทองคำทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ  1,822 ดอลลาร์ในช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดีในตลาดเอเชีย”

นางสาว ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวกับ GoldAround.com

ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำหลังจากนี้ YLG ประเมินว่าในระยะสั้นมุมมองในเชิงเทคนิคของราคาทองคำเป็นบวกมากยิ่งขึ้น  หลังราคาทองคำทรงตัวเหนือแนวรับสำคัญบริเวณ 1,790 ดอลลาร์ได้อย่างต่อเนื่อง และราคา Breakout กรอบ Descending Triangle ที่ทำมาในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงการทะลุกรอบ Sideway Down สีแดงในระยะกลางอีกครั้ง และราคาทองคำเกิดแรงซื้อจนทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันบริเวณ 1,820 ดอลลาร์ จนทำให้ปัจจุบันราคาทองคำสามารถเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้เกือบทุกระยะ

- Advertisement -

“ทำให้ภาพรวมทางเทคนิคในระยะสั้นกลับมาเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น  ขณะที่ทิศทางในระยะกลางกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง อย่างไรก็ดีราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาในระดับหนึ่ง และขยับเข้าใกล้เป้าหมายราคาแนวต้านระยะสั้น  ประกอบกับเกิดสัญญาณทางเทคนิคที่เริ่มบ่งชี้ว่าราคาอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป(overbought) ทำให้ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการไล่ซื้อในระดับราคาปัจจุบัน  ขณะที่นักลงทุนที่ถือครองทองคำเอาไว้ อาจแบ่งทองคำขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้าน”

นางสาว ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวกับ GoldAround.com

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้นักลงทุนแบ่งทองคำออกขายเมื่อราคาเกิดการดีดตัวขึ้น โดยประเมินแนวต้านแรกโซน 1,827-1,834 ดอลลาร์ หากสามารถยืนได้ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,845-1,856 ดอลลาร์ ทั้งนี้ในการเข้าซื้ออาจรอการอ่อนตัวของราคาแล้วค่อยเข้าซื้อบริเวณแนวรับแรก 1,808-1,803 ดอลลาร์ โดยตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,790 ดอลลาร์ เพื่อถอยจุดซื้อไปยังแนวรับถัดไปโซน 1,778 ดอลลาร์ต

- Advertisement -