BBC Thai ได้นำเสนอบทความ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงหลังการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ที่ได้ส่งผลกระทบไปยังทุกภาคส่วนของโลก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย และยังอาจจะเป็นตัวเร่งที่ทำให้หุ่นยนตร์ถูกนำเข้ามาใช้ทดแทนการทำงานของมนุษย์
มาร์ติน ฟอร์ด นักอนาคตศาสตร์ ซึ่งเขียนเรื่องเกี่ยวกับการที่หุ่นยนต์จะถูกหลอมรวมเข้าในระบบเศรษฐกิจในไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า แต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเปิดทางให้เกิดโอกาสใหม่ ๆ สำหรับเครื่องจักรอัตโนมัติ บริษัททั้งขนาดใหญ่และเล็กกำลังเพิ่มรูปแบบการใช้งานหุ่นยนต์เพื่อตอบสนองต่อการรักษาระยะห่างทางสังคม และลดจำนวนพนักงานที่ต้องมาทำงาน
นอกจากนี้ มีการใช้หุ่นยนต์ทำงานบางอย่างที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้จากการทำงานที่บ้านด้วย ยิ่งผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายคนออกโรงเตือนว่า การรักษาระยะห่างทางสังคมอาจต้องมีต่อไปจนถึงปีหน้า ก็หมายถึงว่าจะมีความต้องการใช้หุ่นยนต์เพิ่มขึ้นอีก
หุ่นยนต์ทำความสะอาด และธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งยูวีดี โรบอตส์ (UVD Robots) บริษัทสัญชาติเดนมาร์กผู้ผลิตหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสีอัลตราไวโอเลตก็เป็นหนึ่งในนั้น บริษัทส่งสินค้าหลายร้อยชิ้นไปยังโรงพยาบาลในจีนและยุโรป
ขณะที่ ร้านขายของชำและร้านอาหารที่เปิดให้บริการแบบซื้อกลับบ้านก็หันมาใช้จักรกลเช่นกัน โดยผู้เชี่ยวชาญบอกว่า เมื่อธุรกิจเปิดทำการอีกครั้ง คาดว่าจะได้เห็นการปรับใช้เทคโนโลยีกันมากขึ้น อาจได้เห็นหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่โรงเรียนหรือสำนักงาน
เบลก มอร์แกน ผู้เขียนหนังสือ The Customer of the Future กล่าวว่าตอนนี้ลูกค้ากังวลเรื่องความปลอดภัยของตนเองและพนักงานมากกว่าเดิม ซึ่งการใช้เครื่องจักรกลทำให้หมดห่วงเรื่องสุขภาพ และลูกค้าก็อยากตอบแทนบริษัทที่ดำเนินการลักษณะนี้
อย่างไรก็ดี มันยังมีข้อจำกัด นอกจากนั้นยังมีธุรกิจเครื่องคิดเงินอัตโนมัติตามร้านค้า ที่สามารถลดปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ได้ แต่มันก็ทำงานได้ไม่ราบรื่นนัก หรือบางทีก็พังง่าย ทำให้ลูกค้าเลือกที่จะไปจ่ายเงินกับพนักงานที่เป็นมนุษย์มากกว่า
ทั้งนี้ ธุรกิจบริการอาหารก็เป็นอีกสาขาที่มีการใช้หุ่นยนต์มากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ โดยแมคโดนัลด์เริ่มทดลองใช้หุ่นยนต์ทำอาหารและให้บริการในร้าน ขณะที่แอมะซอน หรือ วอลมาร์ต ก็ใช้หุ่นยนต์ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพงานในโกดังสินค้า ซึ่งการระบาดของโรคโควิด-19 ยิ่งทำให้ทั้งสองบริษัทเพิ่มการใช้งานหุ่นยนต์ในการจัดแยกสินค้า ส่งของ และจัดบรรจุภัณฑ์
ก่อนหน้านี้ แอมะซอนใช้หุ่นยนต์หลายพันตัวทำงานในโกดังอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งวิธีนี้ก็อาจช่วยลดข้อร้องเรียนจากพนักงานทั้งหลายที่บอกว่าไม่สามารถรักษาระยะห่างจากเพื่อนร่วมงานในโกดังได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีบอกว่า มันก็ทำให้พนักงานเหล่านี้ตกงานได้เหมือนกัน และเมื่อธุรกิจเริ่มลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อทดแทนแรงงานมนุษย์ตำแหน่งใดแล้ว ก็ยากที่จะมีการจ้างงานตำแหน่งนั้นอีก การผลิตหุ่นยนต์และผสานบทบาทของมันเข้ากับธุรกิจมีต้นทุนสูงกว่าการใช้มนุษย์ แต่เมื่อมันใช้งานได้จริงจนเห็นผลแล้ว มันมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการใช้แรงงานมนุษย์
มาร์ติน ฟอร์ด บอกว่าการใช้หุ่นยนต์หลังพ้นวิกฤตโควิด-19 มีประโยชน์ทางด้านการตลาดด้วย เพราะ ผู้คนจะเลือกไปที่ที่มีพนักงานน้อยกว่าและมีเครื่องจักรกลมากกว่า เพราะพวกเขารู้สึกว่า โดยรวมแล้วมันมีความเสี่ยงน้อยกว่า
ส่วนงานด้านบริการที่ต้องมีคนคอยให้คำแนะนำจะเป็นอย่างไร ขณะนี้มีการพัฒนาสมองกลเพื่อใช้ทดแทนงานประเภทติวเตอร์ ครูฝึกฟิตเนส หรือแม้กระทั่งผู้ให้คำแนะนำด้านการเงิน รวมไปถึงเรื่องการเรียนการสอน เมื่อทุกอย่างต้องดำเนินต่อไป ห้องเรียนออนไลน์คือคำตอบ
ด้านบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่กำลังขยายการใช้สมองกล โดยทั้งเฟซบุ๊ก และกูเกิลต่างพึ่งพาเทคโนโลยีสมองกลในการลบโพสต์ที่มีข้อความไม่เหมาะสม เพราะพนักงานที่ดูแลเนื้อหาของบริษัทไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาบางประเภทได้จากการทำงานที่บ้าน
หลายคนที่รู้สึกแคลงใจต่อประสิทธิภาพการทำงานของหุ่นยนต์ และเชื่อว่ามนุษย์ปฏิบัติ งานประเภทนี้ได้ดีกว่า แต่แนวคิดนี้อาจกำลังเปลี่ยนไป เพราะการล็อกดาวน์ทำให้คนเริ่มคุ้นชินกับการติดต่อสื่อสารทางไกล ครูฝึกหรือผู้ให้คำแนะนำที่อยู่บนหน้าจอไม่จำเป็นต้องเป็นคนจริง ๆ ก็ได้แต่ต้องสามารถคิดและทำได้เหมือนคนจริง
Comments are closed.